- ผบช.น. แถลงผลจับกุมแก๊งขายปลอมวุฒิการศึกษา ผ่านโลกโซเชียลมีเดีย 2 ราย ยึดตราประทับโรงเรียน และมหาวิทยาลัยปลอม 19 อัน ผู้ต้องหาสารภาพ ทำมาแล้ว 2 ปี มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่าครึ่งพันราย
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงผลจับกุม ผู้ต้องหาขบวนการปลอมวุฒิการศึกษาลงประกาศขายทางโซเชียลมีเดีย โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลางหนังสือรับรองวุฒิการศึกษาปลอม จำนวน 18 แผ่น ตราประทับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ 19 อัน สมุดบัญชีธนาคารที่ใช้ในการรับโอนเงินจากลูกค้า คอมพิวเตอร์ ฟิล์มเคลือบบัตร และอื่นๆ อีกจำนวนมาก
โดยรายแรกสามารถจับกุมได้ที่ จ.สุรินทร์ คือ นายกิตติวัฒน์ ชาญวิมลรัตน์ อายุ 23 ปี และ น.ส.จุฑาวดี ศิริสุขสวัสดิ์ อายุ 21 ปี ขณะที่รายที่สอง สามารถจับกุมได้ที่ จ.อุบลราชธานี คือ นายวีระพล คำแสง อายุ 25 ปี และ นางสาวลลิตา แก้วบุญเรือง อายุ 22 ปี ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 กลุ่ม ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 สืบสวนผ่านทางโซเชียลมีเดีย ก่อนขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับ และติดตามจับกุมได้ที่จ.สุรินทร์ และจ.อุบลราชธานี
จากการสอบสวน นายกิตติวัฒน์ รับสารภาพว่า เรียนรู้การทำวุฒิการศึกษาปลอมจากเพจและเว็บไซต์ต่างๆ โดยจะมีแบบฟอร์ม จากนั้นตนก็จะไปว่าจ้างร้านทำตรายางปลอม เพื่อใช้ในการปลอมวุฒิการศึกษา ที่มีราคาตั้งแต่ 3,500 - 9,800 บาท โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะสั่งทำวุฒิ ม.3 ม.6 และ กศน. เพื่อนำไปสมัครงาน ซึ่งจะมีลูกค้าเดือนละประมาณ 10 - 20 ราย โดยทำมาแล้วประมาณ 2 ปี ทำวุฒิการศึกษาปลอมมาแล้วประมาณ 500 - 600 ราย
พล.ต.ท.ศานิตย์ ฝากเตือนไปยังกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการปลอมวุฒิการศึกษา ว่า ผู้ที่ใช้บริการดังกล่าวจะมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ เช่นเดียวกับคนทำ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่ใช้วุฒิการศึกษาปลอม จะใช้สมัครงานบริษัทเอกชน ไม่สามารถนำมาใช้ในระบบราชการ เพราะการตรวจสอบเข้มข้น ฝากถึงบริษัทเอกชนต่างๆ ให้ตรวจสอบวุฒิการศึกษาผู้ที่มาสมัครงานโดยตรวจสอบย้อนไปยังสถาบันการศึกษา เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดจากบุคคลที่ใช้วุฒิการศึกษาปลอม ซึ่งจะได้คนที่มีคุณวุฒิ ไม่ตรงกับความต้องการขององค์กร พฤติกรรมเช่นนี้ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันการศึกษา รวมถึงห้างบริษัทต่างๆ ที่รับสมัครพนักงาน ทั้งนี้ ฝากถึงประชาชนทั่วไป ว่า หากพบการกระทำที่ผิดกฎหมายก็สามารถแจ้งตำรวจได้ทันที
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
