xs
xsm
sm
md
lg

ป้าแท็กซี่รับทราบข้อหา-ปัดลักทรัพย์ ตร.ส่งฟ้องอัยการทันที (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ป้าแท็กซี่ไล่ผู้โดยสารลง ก่อคดีซ้ำซากตั้งแต่ปี 55 เข้ารับทราบข้อหาวิ่งราวทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว แต่ปฏิเสธข้อหาลักทรัพย์ เจ้าตัวยอมรับเป็นโรคเครียด แต่เลิกขับแท็กซี่แล้ว ตร.นำสำนวนส่งฟ้องอัยการวันนี้





วันนี้ (5 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สน.บางเขน นางผุสดี อัญชัญภาติ หญิงขับแท็กซี่ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ ตามที่ปรากฏเป็นคลิปในโลกออนไลน์ เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเขน หลังจากถูกออกหมายจับคดีลักทรัพย์ผู้โดยสารเมื่อปี 2558 โดยก่อนหน้านี้ผู้โดยสารเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกนางผุสดีไล่ลงจากรถ และขับรถออกนอกเส้นทาง อีกทั้งยังลักทรัพย์เป็นเงินสดกว่า 10,000 บาท รวมถึงโทรศัพท์มือถือ และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ก่อนขับรถหลบหนีไป

โดยนางผุสดีเปิดเผยว่า เริ่มขับแท็กซี่เมื่อปี 2555-2556 พร้อมยอมรับว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน ถ้าเครียดจะมีอาการโมโหรุนแรงทันที มักจะทะเลาะกับผู้โดยสารเรื่องเส้นทางหลายครั้ง มักจะเครียดและโมโหหากต้องไปเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด เนื่องจากอยากส่งผู้โดยสารให้ถึงที่อย่างรวดเร็วเพื่อจะได้ไปรับผู้โดยสารคนอื่นต่อเพราะต้องหาเงินไปใช้หนี้สิน ทั้งนี้ยังยอมรับว่าเป็นคนเครียดอยู่แล้วเนื่องจากประสบปัญหาหนี้สินจำนวนมากถึงขั้นขายบ้าน ขายรถ ประกอบกับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องครอบครัว เมื่อมาขับรถและเจอกับการจราจรติดขัดก็ยิ่งเครียดมากขึ้น โดยปกติไม่ได้เข้าไปรับการรักษาโรคเครียดอย่างจริงจัง แต่จะซื้อยานอนหลับกับยาคลายเครียดจากร้านขายยา หรือคลินิกมารับประทานเอง

นางผุสดีเปิดเผยอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ตามในคลิปนั้นเกิดจากผู้โดยสารซึ่งเป็นแม่และลูกกันได้เรียกรถจากย่านแพลทินัมให้ไปส่งย่านจรัญสนิทวงศ์ซึ่งการจราจรติดขัดมาก ผู้โดยสารที่เป็นลูกสาวจึงให้ตนเองขับเข้าไปในซอย ตนไม่อยากมีปัญหาจึงยอมขับเข้าไปในซอย แต่เมื่อรถติดทางผู้โดยสารก็ด่าว่าขับรถพาอ้อมเส้นทางจึงเริ่มมีอาการเครียดและขอให้ลง แต่ผู้โดยสารไม่ยอมลงและไม่จ่ายเงิน พร้อมบอกให้ส่งถึงที่หมาย ก่อนที่ตนเองจะบอกว่าขอไปเติมแก๊ส ทางผู้โดยสารไม่พอใจจึงพยายามจะลง ขณะที่ผู้โดยสารที่เป็นแม่พยายามจะจ่ายเงิน แต่ลูกไม่ยอมให้จ่าย จึงเกิดการยื้อแย่งเงินกันจนเงินขาดก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ตามในคลิป

ขณะที่เหตุการณ์ที่มีการแจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธิน ที่ระบุว่าได้ชิงเงินผู้โดยสารจำนวน 2,000 บาทนั้นไม่เป็นความจริง เพราะผู้โดยสารเรียกรถจากเซ็นทรัลลาดพร้าวไปยังลาดพร้าวซอย 1 ค่ามิเตอร์โดยสารเพียง 53 บาท และผู้โดยสารก็จ่ายเงินมา 60 บาท เป็นธนบัตร 20 จำนวน 3 ใบ ซึ่งก็ได้ทอนเงินไปแล้ว 5 บาท หากจะชิงเงิน 2,000 บาทก็เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากผู้โดยสารนั่งข้างหลังจะทำได้อย่างไร อีกทั้งไม่ทราบว่าผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บขณะลงรถอีกด้วย

ส่วนกรณีที่มีการแจ้งความว่าได้ลักทรัพย์จำนวน 10,000 บาท เมื่อปี 2558 ก็ไม่เป็นความจริง และเรื่องที่ใช้คัตเตอร์จี้ผู้โดยสารก็ไม่เคยทำ แต่ยอมรับว่าพกคัตเตอร์ไว้ในรถจริงเพื่อป้องกันตัว ทั้งนี้อยากขอโทษผู้โดยสาร และขอโทษเจ้าของอู่รถที่ทำให้เดือดร้อน ส่วนตัวไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีเจตนาจะทำร้ายใคร และเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนอย่างมาก ตอนนี้ก็ไม่ได้ขับรถมานานมากแล้ว และที่เข้ามามอบตัวเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

ขณะที่ พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบช.น.ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำ พร้อมเปิดเผยว่าหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.บางเขน จะต้องสอบปากคำนางผุสดีเพิ่มเติม และจะควบคุมตัวนางผุสดีพร้อมสำนวน ส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ 5 สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก ที่ศาลอาญาในช่วงบ่ายวันนี้ รวมถึงพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้เดินทางเข้ามาขออายัดตัวนางผุสดีไว้เพื่อดำเนินคดีต่อในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยวภายในซอยลาดพร้าว 1 เมื่อปี 2557 โดยคดีนี้ได้ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ แต่เมื่อผู้โดยสารกำลังก้าวขาลงก็ขับรถกระชากออกไปทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ และชิงเงินสด 2,000 บาทไปจากมือผู้โดยสารด้วย























กำลังโหลดความคิดเห็น