MGR Online - สตช.เปิดช่องทาง “พิโกไฟแนนซ์” ให้นายทุนปล่อยเงินกู้อย่างถูกกฎหมาย คิดอัตราดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 3 บาทต่อเดือน หรือร้อยละ 36 ต่อปี ตามมติคณะรัฐมนตรี สั่งฟันข้าราชการเอี่ยวไม่มีข้อยกเว้น
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามมติคณะรัฐมนตรี ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และ ศชต.รวบรวมรายชื่อผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบทั่วประเทศ ภายในวันที่ 1-10 เม.ย.นี้ เพื่อขออนุมัติหมายค้น หาหลักฐานในการดำเนินคดี เพื่อขจัดหนี้นอกระบบที่เก็บดอกเบี้ยสูงเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และเรียกเก็บดอกเบี้ยด้วยวิธีที่ไม่ถูกกฎหมาย หรือใช้การคุกคามข่มขู่ลูกหนี้ หลังพบมีประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลเปิดโอกาส ให้เจ้าหนี้นอกระบบขึ้นทะเบียนดำเนินธุรกิจปล่อยกู้นอกระบบได้ใน 2 รูปแบบ คือ นาโนไฟแนนซ์ ที่ต้องมีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ปล่อยกู้ได้ทั่วประเทศ แต่ปล่อยกู้ได้คนละไม่เกิน 100,000 บาท อีกรูปแบบ คือ พิโกไฟแนนซ์ หรือสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ใช้เงินทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ปล่อยกู้ได้คนละไม่เกิน 50,000 บาท ภายในจังหวัดที่ขึ้นทะเบียน ทั้ง 2 รูปแบบสามารถคิดอัตราดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 3 บาทต่อเดือน หรือร้อยละ 36 ต่อปี แต่หากไม่ขึ้นทะเบียนจะสามารถเก็บดอกเบี้ยได้เพียงร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน หรือร้อยละ 15 ต่อปีเท่านั้น หากเก็บมากกว่ากำหนดโดยไม่ขึ้นทะเบียนพิโกไฟแนนซ์ ถือมีอัตราโทษตามกฎหมาย ส่วนประชาชนที่ยังคงมีหนี้กับเจ้าหนี้นอกระบบ สามารถแจ้งต่อธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ทุกสาขา หรือแจ้งโดยตรงมายังกระทรวงการคลัง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยไกล่เกลี่ยหนี้กับนายทุน และนายทุนก็สามารถขอใบอนุญาตขึ้นทะเบียนดำเนินธุรกิจปล่อยกู้นอกระบบได้ที่ธนาคารทั้งสองแห่งด้วยเช่นกัน
ด้าน พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าวว่า ไฟแนนซ์ทั้ง 2 รูปแบบเป็นช่องทางที่รัฐบาลต้องการให้ผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบมีช่องทางการประกอบธุรกิจอย่างถูกกฎหมาย และเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนที่มีความต้องการใช้บริการเงินกู้ที่สถาบันการเงินไม่สามารถอนุมัติให้ได้ โดยมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และรัฐบาลจะไม่เข้าควบคุมนายทุน เพียงให้นายทุนทำรายงานสรุปยอดผู้กู้ต่อสำนักงานใหญ่ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังเพื่อความเป็นระเบียบ ซึ่งขณะนี้มีผู้ขออนุญาตแล้วกว่า 150 คน
“ในการดำเนินการกับข้าราชการที่เกี่ยวพันกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยไม่มีข้อยกเว้น หากประชาชนพบเบาะแสการปล่อยกู้นอกระบบที่ไม่เป็นธรรม สามารถโทรผ่านสายด่วน 1359 หรือ แจ้งเบาะแสมาได้ที่ 1599 หรือสายด่วน 191” ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าว และว่าปัญหาเงินกู้นอกระบบจะหมดไปหรือไม่ ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ ยืนยันการจดทะเบียนสินเชื่อรายย่อย ไม่ใช่มาตรการฟอกขาวที่เปิดช่องทางให้ผู้กระทำความผิดหลีกเลี่ยงกฎหมาย เพราะผู้ขอจดทะเบียนทุกคนจะต้องถูกตรวจสอบประวัติว่าเคยมีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับการเงินหรือไม่