MGR Online - รมว.ยุติธรรม ยันไม่ยกเลิกใช้ ม.44 ธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ส่วนการปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในแผนการปฏิรูปพระพุทธศาสนา 7 ชุด ส่วนคดีนักกิจกรรม ชาวลาหู่ ถูกฆ่า ญาติสามารถเรียกร้องดูแลสิทธิได้
วันนี้ (30 มี.ค.) กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้าการควบคุมพื้นที่รอบวัดพระธรรมกาย ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังพิจารณายกเลิกการควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย ตามข้อ 9 จากทั้งหมด 11 ข้อ คือ ให้วัดพระธรรมกายตลอดจนพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกาย ในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี รวมถึงพื้นที่หมู่ 7 หมู่ 8 หมู่ 9 หมู่ 10 หมู่ 11 หมู่ 12 และหมู่ 13 ในตําบลคลองสอง และพื้นที่หมู่ 7 หมู่ 8 หมู่ 9 หมู่ 10 และหมู่ 11 ในตําบลคลองสาม อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นพื้นที่ควบคุม ตามคำสั่งมาตรา 44 ของ คสช. แต่ยังไม่ยกเลิกคำสั่ง ม.44
ส่วนการปฏิรูปคณะสงฆ์นั้นอยู่ในแผนการปฏิรูปพระพุทธศาสนา โดยมี สำนักพระพุทธศาสนา คณะสงฆ์ และ องค์กรต่างๆ ร่วมดำเนินการ ซึ่งมีแผนการแล้ว ตั้งแต่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลพระพุทธศาสนา รวมถึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 7 ชุด และ มหาเถรสมาคม ดำเนินการไปบางส่วนบ้างแล้ว
- คดี ชาวลาหู่ ครอบครัวเรียกร้องดูแลสิทธิได้
นายสุวพันธุ์ เผยกรณีการเสียชีวิตของ นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ ว่า นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวราหู่ มี 2 ประเด็น คือ 1. พฤติกรรมของ นายชัยภูมิ เป็นอย่างไรต้องถาม ป.ป.ส. ตำรวจ และ ทหารที่เกี่ยวข้อง และ 2. สาเหตุการเสียชีวิต โดย กระทรวงยุติธรรม เกี่ยวข้องกับเรื่องการดูแลสิทธิของ นายชัยภูมิ หากครอบครัว ไม่ได้รับความยุติธรรมสามารถเดินทางมายื่นเรื่องได้ แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากเป็นไปตามกระบวนการหาข้อเท็จจริง
- ปฏิรูปศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด
นายสุวพันธุ์ กล่าวถึงการปฏิรูปศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ว่า กระทรวงยุติธรรม มีแผนต่อยอดศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความยุติธรรมช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ได้ให้ กรมคุ้มครองสิทธิฯ และ กรมบังคับคดี ลงพื้นที่ไปช่วยไกล่เกลี่ยคดีและดูแลสิทธิของประชาชน เผยแพร่ความรู้ข้อกฎหมายแก่ชาวบ้าน เหมือนยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งหากประชาชนถูกดำเนินคดีแบบไม่รู้กฎหมาย ถือว่า กระทรวงยุติธรรม ไม่ได้ทำหน้าที่ดังกล่าว นับเป็นวาระของ กระทรวงยุติธรรม พร้อมต้องหารือกับ กระทรวงมหาดไทย เพราะต้องเชื่อมโยงกับคณะกรรมการของหมู่บ้าน และมีการประสานกองทุนหมู่บ้าน อาสาสมัครกระทรวงสาธารณสุข อาสาสมัครกระทรวงยุติธรรม และ ภาคประชาชน
“นอกจากนี้ ยังมีโครงการคืนคนดีสู่สังคม โดย กรมราชทัณฑ์ กรมพินิจฯ กรมคุมประพฤติ และ โครงการกำลังใจ ร่วมกันช่วยเหลืออดีตผู้ต้องขังให้มีการฝึกอาชีพและประสานขอ สำนักนายกรัฐมนตรี จัดสรรพื้นที่บางส่วนในตลาดคลองผดุงกรุงเกษม นำสินค้ามาวางขายเพื่อให้พวกเขามีรายได้หลังพ้นโทษไปแล้ว”