MGR Online - เซียนมวยชี้เหตุตีหัวกรรมการฝ่ายเทคนิคสนามมวยลุมพินี มาจากขัดแย้งการพนัน แฉ “ขาใหญ่” ฉุนจัดสั่งสมุนตีหัวสั่งสอนก่อนบานปลายเป็นยิง รปภ.เสียชีวิต เชื่อตำรวจรู้ตัวขบวนการทั้งหมดแล้วแต่รอให้ชัวร์ก่อนจับเพราะ “คนมีสี” มีเอี่ยว
วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าคดีสองคนร้ายดักรุมทำร้ายนายอุดม ดีกระจ่าง ประธานกรรมการฝ่ายเทคนิคมวย สนามมวยลุมพินี รามอินทรา และยิงพนักงานรักษาความปลอดภัยเสียชีวิตว่า ในวันนี้จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาพยานหลักฐานเพื่อไปเสนอศาลขอออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ โดยจะเป็นการออกหมายจับโดยใช้ชื่อจริง ถ้าระบุชื่อได้จะง่ายต่อการทำงานพนักงานสืบสวน ส่วนการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ส่งชุดไล่ล่าติดตามตัวแล้ว ตนยังไม่อยากเปิดเผยรายละเอียดมากจะทำให้คนร้ายไหวตัวทัน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบาก
“จากการสอบปากคำนายสมชาย เทศรุ่งเรือง หรือเสี่ยแขก ยังมีหลายประเด็นที่สงสัยและเตรียมจะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง ส่วนกรณีใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 โดยประการที่จะทำให้ผู้นั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังในความผิดฐานหมิ่นประมาท หากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องทางเสี่ยแขกควรที่จะแจ้งความเอาผิด เพราะทำให้เสียชื่อเสียง ยืนยันว่าคดีนี้จะทำงานด้วยความรอบคอบ ต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ พิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อสังคมได้ ยังยืนยันว่าคดีนี้หาเปรียบเป็นขั้นบันได 20 ขั้น ขณะนี้อยู่ที่ขั้นที่ 16 ใกล้จะได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ทุกคดีอย่าไปมองว่าเขาเป็นใคร มองเขาเป็นผู้เสียหาย มองเขาว่าเป็นเหยื่อ มองเขาว่าเป็นผู้กระทำความผิดหรือเปล่า ถ้าไม่ได้กระทำความผิดไม่ต้องกังวลใจ ส่วนคดีดังกล่าวมีเรื่องเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลหรือคนมีสีหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ผู้ใหญ่รัฐบาล และเราพยายามทำความเข้าใจว่าผู้มีอิทธิพลมีไม่ได้ หากนิยามว่าผู้มีอิทธิพลคือผู้กระทำผิดกฎหมาย ตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมายจะต้องใช้กฎหมายด้วยความยุติธรรม” ผบช.น.กล่าว
เซียนพนันมวยรุ่นเก๋ารายหนึ่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ความจริงเหตุการณ์ดักทำร้ายนายอุดมนั้น เชื่อว่ามีคำสั่งจากผู้บงการให้ลงมือสั่งสอนเฉยๆ และการบุกตีหัวคือระบบนักเลงรุ่นเก่าให้เพียงแค่ได้อาย แต่ลุกลามจนถึงยิงกันเพราะคนตายเห็นเหตุการณ์แล้วเข้าไปช่วย “ขณะนี้ผมเชื่อว่าตำรวจรู้ตัวกลุ่มคนร้ายหมดแล้ว ทั้งคนลงมือและคนจ้างวาน แต่เนื่องจากอาจเอี่ยวกับคนมีสี รวมทั้งชื่อเสียงของสนามมวยลุมพินี ซึ่งแน่นอนว่าสาเหตุจริงๆ มาจากเงินเดิมพัน หรือการพนันขันต่อนั่นเอง”
แหล่งข่าวรายเดียวกันกล่าวอีกว่า ปัจจุบันโปรโมเตอร์จัดมวยค่อยๆ ล้มหายตายจากกันไปสาเหตุหนึ่งเพราะไม่มีมวยระดับแม่เหล็กในสังกัด อีกทั้งการเป็นโปรโมเตอร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครเป็นหัวหน้าค่ายมวยเหมือนแต่ก่อนจึงต้องทุ่มเงินจ้างนักมวยดีๆ มาชก นอกจากนั้น ความขัดแย้งระหว่างเซียนมวยกับกรรมการตัดสินยังถือว่าเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก เซียนมวยมีทั้งขาธรรมดา กับขาใหญ่มีเครือข่าย มีอิทธิพล มวยบางคู่ถ้ามีเดิมพันมากๆ หากเห็นว่าฝ่ายตัวเพลี่ยงพล้ำก็จะมีทีมโห่กดดันกรรมการ แต่ฝ่ายกรรมการก็มีข้อหารับสินบน และไม่ว่าจะเป็นมุมไหน ผลออกมาคือสนามมวยเสียชื่อ นอกจากถูกมองว่าเป็นแหล่งการพนันยังเป็นที่ซ่องสุมของนักเลงผู้มีอิทธิพลอีกด้วย