ตำรวจให้น้ำหนักการทำหน้าที่ตัดสินมวยของ “อุดม” สาเหตุถูกดักตีหัวหน้าสนามลุมพินี เผยก่อนนี้มีใบปลิวโจมตี “เสี่ยแขก” ซื้อกรรมการไปแล้วถึง 4 คน เพื่อทำให้มวยตัวเองชนะ
วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลา 19.40 น. ที่ สน.บางเขน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีกรณีชาย 2 คน บุกทำร้ายนายอุดม ดีกระจ่าง อายุ 59 ปี ประธานกรรมการฝ่ายเทคนิค (กรรมการผู้ตัดสิน) ของสนามมวยลุมพีนี ได้รับบาดเจ็บ และยิงนายอนุชา ประทุมมา หรือต้น อายุ 24 ปี รปภ.ประจำทางเข้าสนามมวย ที่พยายามเข้าช่วยเหลือจนเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าสนามมวยเวทีลุมพินี ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (อ่านเพิ่มเติม : คนร้ายดักตีหัวกรรมการมวยลุมพินี รามอินทรา รปภ.เข้าห้ามถูกยิงดับ)
พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยก่อนการประชุมว่า ได้เดินทางไปสอบปากคำนายอุดมที่ รพ.ภูมิพล ในเบื้องต้นทั้งเรื่องความขัดแย้งในโรงเรียนที่เป็นอาจารย์สอน และประธานกรรมการฝ่ายเทคนิคของสนามมวยลุมพีนี ซึ่ง นายอุดมยืนยันว่าไม่ได้มีศัตรูที่ไหน รวมไปถึงที่มีปัญหาเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาก็มีการเคลียร์กันเรียบร้อยลงตัวหมดแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้ำหนักประเด็นน่าสนใจไปที่เรื่องประธานกรรมการฝ่ายเทคนิคของสนามมวยลุมพินี โดยก่อนหน้านี้ได้มีการโปรยใบปลิวโจมตีการทำหน้าที่ของกรรมการผู้ตัดสิน
โดยในใบปลิวมีรูปของนายอุดม และเสี่ยแขก พีเคแสนชัย (ชื่อในวงการ) พร้อมกับข้อความขึ้นหัวใหญ่ว่า “มะเร็งวงการมวย” โดยมีเนื้อหา “เรียนแฟนมวยขาประจำ และขาจรที่ลุมพินี ตอนนี้เสี่ยแขก พีเคแสนชัย ได้ซื้อกรรมการลุมพินีไว้หมดแล้ว จะเห็นได้จากรายการหลายนัดที่ผ่านมา สนามไม่มีความรู้ ซื่อบื้อ โดยเฉพาะ เสธ.ก้อง ทำอวดรู้ ตอนนี้เสี่ยแขกเข้ามากอบโกยเงินไปไม่รู้เท่าไร เสี่ยแขกออกเงินกู้ร้อยละ 20 ทำไมจะซื้อกรรมการลุมพินีไม่ได้ ตอนนี้กรรมการรับเงินเสี่ยแขกถึง 4 คน บังคับมวยเสี่ยแขกให้ชนะให้ได้... แล้วเราจะเล่นกับเขาอีกหรือ??? จาก...คนรักวงการมวย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกหนึ่งประเด็นที่อาจจะสร้างความขัดแย้งนั้น อาจเกิดจากคู่มวยเมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 21.10 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้น้ำหนักในเรื่องเกี่ยวกับอาชีพการทำงานของผู้บาดเจ็บเป็นหลัก และยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออก รวมไปถึงประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้ต้องย้อนดูก่อนหน้านี้ว่ามีส่วนใดที่อาจจะเป็นมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ ส่วนเรื่องใบปลิวที่มีการแจกจ่ายในเวทีมวยเป็นใบปลิวที่มีการแจกตั้งเดือนธันวาคมที่ผ่านมาซึ่งก็เป็นอีกข้อมูลที่ดึงมาใช้ในการสืบสวน และจากการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายสืบสวนที่ลงพื้นที่พบว่าคนร้ายมีด้วยกันทั้งหมด 2 คน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลจากพลเมืองดีว่าหลังจากที่ก่อเหตุพบคนร้ายขับรถมาจอดบริเวณถนนรามอินทราตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกริก ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะลงแล้วเดินข้ามฝั่งไปถนนรามอินทราด้านขาออก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิด สำหรับการก่อเหตุในครั้งนี้จะเป็นการจ้างมาก่อเหตุหรือเป็นการก่อเหตุเอง รวมไปถึงกลุ่มบุคคลที่มีความขัดแย้งกลุ่มต่างๆ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ คงต้องรอรวบรวมข้อมูลทั่งหมดอีกครั้งเพื่อความชัดเจน