MGR Online – อธิบดีราชทัณฑ์สั่งเรือนจำธนบุรีสอบภายในการสุ่มตรวจปัสสาวะนักโทษ พบฉี่ม่วง 20. ราย แจงเบื้องต้นเกิดจากกินยาแก้แพ้ แต่รอฟังผลกาตรวจอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค. หากพบเป็นสารเสพติดโดนสอบยกแผนก
จากกรณีมีข่าวออกมาว่าทาวเรือนจำพิเศษธนบุรีได้ตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง 20 รายพบฉี่สี่ม่วง และมีการปอบนำยาเสพติดกับอุปกรณ์แอร์การ์ดเข้าไปในเรือนจำได้นั้น
วันนี้ (24 มี.ค.) นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา นายยศพนต์ สุธรรม ผบ.เรือนจำพิเศษธนบุรี ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่เข้าจู่โจมตรวจค้นและตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังภายในเรือนจำ โดยใช้อุปกรณ์กระดาษเทสปัสสาวะ เบื้องต้นพบว่ามีปัสสาวะผิดปกติ 20 ราย หลังจากนั้นส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อแยกแยะว่า ในเป็นสารเสพติดหรือสารอื่นๆ ที่สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ต่อมาได้รับแจ้งผลการตรวจเบื้องต้น เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ว่าไม่พบเมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า) และคีตามีน(ยาเค) ในปัสสาวะผู้ต้องขังทั้ง 20 ราย ซึ่งอาจจะเกิดจากรับประทานยาแก้แพ้ก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งหมดจากสำนักยาและวัตถุเสพติดเสร็จสิ้นในวันที่ 28 มี.ค.นี้ สำหรับผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว ทางเรือนจำได้จับแยกขัง เพื่อรอผลการตรวจยืนยัน หากสุดท้ายผลออกมาเป็นสารเสพติด จะมีการดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งทางวินัยและทางอาญา
"นอกจากนี้ ในวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ ได้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้าตรวจค้นจู่โจมและสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษธนบุรีอีกครั้ง ผลปรากฏว่าไม่พบสิ่งของต้องห้าม สิ่งของผิดกฎหมาย และไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะผู้ต้องขังแต่อย่างใด ส่วนประเด็นว่าสิ่งของต้องห้ามเข้ามากับรถขยะของ กทม. และรถส่งอาหารนั้น เป็นเรื่องที่เรือนจำไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เรือนจำต้องตรวจทุกช่องทางอย่างละเอียด และหากเข้ามาจริงก็ต้องมีผู้รับผิดชอบ ซึ่งเรือนจำได้มีมาตรการการตรวจค้นอย่างเข้มงวดมาโดยตลอดอยู่แล้ว นอกจากนี้กรณีผู้ต้องขังมีแอร์การ์ดไว้ในครอบครอง จากการตรวจค้นจู่โจมทั้ง 2 ครั้ง ไม่พบแอร์การ์ดในเรือนจำ เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ยังไม่มีหลักฐานปรากฏอย่างแน่ชัด แต่เพื่อความชัดแจ้งกรมราชทัณฑ์จะแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่สื่อมวลชนได้ทวงถามมา" นายกอบเกียรติ กล่าว