xs
xsm
sm
md
lg

กปภ.ตรวจสภาพอาคารยังมีความมั่นคง ไม่กระทบการจ่ายน้ำประปา 234 สาขาทั่วประเทศ (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - กปภ. แถลงความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ ยันที่เกิดเหตุเป็นห้องเก็บเอกสารงบการเงินปี 59 แต่ไม่กระทบเนื่องจากส่งไปให้ สตง. แล้ว และไม่กระทบการจ่ายน้ำประปา 234 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งจากการตรวจสภาพเบื้องต้น อาคารยังมีความมั่นคง



วันนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานใหญ่ การประปาส่วนภูมิภาค นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) นายกฤษฎา ศังขมณี รองผู้ว่าการบริหาร นายนิวัตน์ สถิตกาญจนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ (เทคโนโลยีสารสนเทศน์) และคณะผู้บริหาร กปภ. ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ อาคาร 2 สำนักงานใหญ่ กปภ. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงของสถานการณ์และแผนการดำเนินงาน โดยใช้เวลาในการชี้แจงข้อเท็จจริงและตอบข้อสงสัยประมาณ 30 นาที

นายเสรี กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุ การประปาส่วนภูมิภาคได้ดำเนินตามแผนที่วางไว้ทุกประการ โดยได้อธิบายแผนผังอาคาร 2 ว่า เป็นอาคารในลักษณะรูปตัวแอล ซึ่งบริเวณชั้น 4 ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้จะมีห้องทำงานอยู่ ได้สันนิษฐานว่า เพลิงเกิดขึ้นจากห้องกองกิจการประปา 3 ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการของรองผู้ว่าการภาค 3 เหตุเกิดขึ้นเวลา 18.30 น. พนักงานที่อยู่ด้านหลังอาคาร 2 บริเวณสนามกีฬาสังเกตเห็นควัน จึงรีบแจ้ง รปภ. ทาง รปภ. จึงขึ้นไป 3 - 4 คน พร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง ขณะเดียวกัน ก็ได้ประสานดับเพลิงด้วย จากนั้นได้เข้าระงับเหตุฉุกเฉินตามแผน หลังเข้าไปแล้วไม่สามารถระงับเหตุได้ เนื่องจากทิศทางควันไฟ และลมแรง จึงไม่สามารถดับได้ ต่อมาเวลา 19.00 น. รถดับเพลิงเข้ามา 20 คัน ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จึงควบคุมให้อยู่ในขอบเขตได้ เพลิงไม่ลุกลามต่อไปยังอาคารใกล้เคียง ต่อมาเวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ

นายเสรี กล่าวว่า ส่วนห้องด้านข้างที่อยู่ติดกับห้องกองกิจการประปา 3 เป็นห้องสำนักงานของเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่ได้มาทำงาน มีหน้าที่หลักคือการรับรองงบการเงิน งบดุลประจำปี ซึ่งทุกปีจะต้องส่งไปให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ทั้งนี้ งบการเงินปี 59 ได้ตรวจสอบเสร็จสิ้นไปแล้ว และได้ส่งผ่านเรียบร้อยแล้ว หนังสือรายงานงบจึงไม่ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม เอกสารต่างๆ ภายในห้องสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินนั้นเป็นเพียงเอกสารที่ กปภ. ไม่อาจจะรับทราบได้เกี่ยวกับงบการเงิน ส่วนเรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่ส่งเข้ามา เอกสารได้ส่งไปที่สำนักงานใหญ่ ที่มีกระแสข่าวออกมาว่าชั้น 4 เป็นชั้นเก็บเอกสารสำคัญมากมาย นี่เป็นข้อเท็จจริงที่จะชี้แจงว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น ส่วนพื้นที่บริเวณชั้น 3 ซึ่งอยู่ติดกับชั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ไม่มีห้องอะไรที่สำคัญ ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายวิศวกรรม ฝ่ายออกแบบ หลังจากได้เข้าไปพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ได้ตรวจสอบทุกชั้น พบว่า เอกสารยังสมบูรณ์ สามารถทำงานต่อได้ ส่วนชั้น 2 มีเอกสารสำคัญของ กปภ. จะถูกเก็บไว้ที่ชั้น 2 อาคาร 2 เพียงส่วนหนึ่ง ซึ่งมีห้องกองวินัย หากมีการร้องเรียนเข้ามาเรื่องพนักงานผิดวินัย ก็จะถูกเก็บไว้ที่นี่ เรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่เข้ามาเอกสารจึงยังอยู่ครบทุกเรื่องโดยสมบูรณ์ ส่วนเอกสารสัญญาต่างที่ทำมาตั้งแต่อดีตยังอยู่ครบที่อาคาร 1 ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนชั้น 1 เป็นกองจัดหา เอกสารการจัดซื้อจัดจ้าง จึงถูกเก็บไว้ที่นั้น หากมีเรื่องร้องเรียนกปภ.มีเอกสารพร้อมที่จะส่งให้ สตง. ป.ป.ช. ส่วนประเด็นการทำลายเอกสารจึงอยู่ในห้องนี้

นายเสรี กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุได้ดำเนินการตามแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan : BCP แต่ไม่ประกาศ BCP พร้อมตั้งศูนย์บัญชาการภายในเวลา 14 ชม. ทั้งนี้ ภายใน 30 วัน จะสรุปสถานการณ์ความเสียหาย รายงานข้อเท็จจริง และแผนฟื้นฟูส่งกรุงเทพมหานคร คาดว่า ภายใน 6 เดือน อาคารดังกล่าวจะกลับมาใช้ได้ตามปกติ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า การจ่ายน้ำประปาของ กปภ. 234 สาขาทั่วประเทศ ยังคงให้บริการตามปกติ

นายเสรี กล่าวถึงประเด็นเอกสารสำคัญที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนว่า ยืนยันว่า เอกสารทุกอย่างอยู่ครบถ้วน เพลิงไหม้ไม่ได้ทำลายหลักฐาน เพราะมีสำเนาอยู่ ส่วนเรื่องร้องเรียน จำนวน 31 เรื่อง ข้อมูล ณ วันที่ 11 ม.ค. 60 ประกอบด้วย 1. ไม่มีข้อมูล,ข้อร้องเรียนไม่ชัดเจน, ยุติเรื่อง จำนวน 7 เรื่อง 2. อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาให้โครงการเดินต่อได้ จำนวน 11 เรื่อง 3. ตรวจสอบข้อมูลโดยตั้งคณะกรรมการ จำนวน 7 เรื่อง 4. เรื่องถึง สตง. ป.ป.ช. และชั้นศาล จำนวน 6 เรื่อง โดยหัวข้อร้องเรียนแบ่งออกเป็นการจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน 7 เรื่อง โครงการก่อสร้าง จำนวน 16 เรื่อง เจ้าหน้าที่ประพฤติมิชอบ จำนวน 3 เรื่อง กระบวนการทำงาน หรือบริหารงาน จำนวน 3 เรื่อง และประเด็นอื่นๆ จำนวน 2 เรื่อง เรื่องร้องเรียนต่างๆ ยังคงดำเนินการตรวจสอบไปตามปกติ ส่วนมูลค่าความเสียหายที่เกิดเพลิงไม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ทาง กปภ. ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้วตามแผนการปฏิบัติ ส่วนการสอบปากคำในคืนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วจำนวน 10 ปาก ซึ่งตนได้เข้าไปลงบันทึกประจำวันแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งยังไม่มีการเรียกสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ ให้ส่งรายงานประเมินความเสียหายในเบื้องต้นเท่าไหร่ ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ต้องรอผลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ในอดีตเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ชั้นล่างของอาคารดังกล่าว

ด้าน นายกฤษฎา กล่าวว่า อาคารดังกล่าวสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 เริ่มใช้อาคาร ปี พ.ศ. 2527 อายุอาคารค่อนข้างเก่า ระบบสัญญาณเตือนภัยก็มีการเตือนอยู่ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ส่วนระบบน้ำดับเพลิงมีหัวดับเพลิง 8 - 10 หัว รวมทั้งมีถังเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า จึงสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็ว ปกติมีการปิดสวิตช์ แต่บางครั้งมีบางหน่วยต้องใช้งานอย่างต่อเนื่องจึงไม่สามารถปิดสวิตช์หลักได้

ด้าย นายนิวัตน์ ได้ตอบข้อซักถามถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่อาจมีโอกาสทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้หรือไม่ว่า อาจเป็นไปได้ว่า อุปกรณ์บางส่วน เช่น สายไฟที่ใช้มาหลายสิบปี อาจเกิดการช็อต เข้าไปที่ UPS ที่อยู่ใกล้ๆ หรือถ้ามีอากาศร้อนอาจมีโอกาสที่จะเกิดช็อตจนลามไปถึง UPS ได้ ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริง ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทราบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน

ภายหลังการแถลงข่าว นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พ.ต.ท.ดร.บัณฑิต ประดับสุข ที่ปรึกษาคณะทำงานกรณีเกิดปัญหาความปลอดภัยทางสถาปัตยกรรม และศาสตราจารย์ ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการวิศวกร ได้เดินมาตรวจสอบด้านหน้าอาคาร 2 ซึ่งเป็นอาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบโครงสร้างอาคารและตรวจสอบความเสียหาย

พ.ต.ท.ดร.บัณฑิต กล่าวว่า สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เพลิงไหม้เกิดขึ้นด้านหลังอาคาร ดูจากความเสียหายพบว่าเพลิงไหม้ค่อนข้างรุนแรง คาดว่า คงมีเชื้อเพลิงอยู่เยอะ เช่น กระดาษ จึงทำให้ไฟลุกลามได้รวดเร็ว

ศาสตราจารย์ ดร.อมร กล่าวว่า จากการตรวจสอบคาดว่าอุณหภูมิที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างคอนกรีตไม่เกิน 500 องศา โดยใช้ระยะเวลาไหม้ 3 - 4 ชั่วโมง ซึ่งโครงสร้างคอนกรีตยังสามารถทนไฟได้ จากการตรวจสอบเสาพบว่าเสามีความแข็งแรงอยู่ สภาพโดยรวมสามารถรับน้ำหนักได้ ทั้งนี้ เพลิงไหม้ทำให้ผิวคอนกรีตหลุดบางส่วน จนเห็นเหล็กเสริมแต่ยังเป็นเส้นตรงอยู่ซึ่งเสามีความแกร่ง เพราะมีปูนฉาบความหนา 4-5 ซม. เสาบางส่วนอาจจะมีรอยแตกร้าว แต่เพลิงไม่ได้ทำลายเหล็กเส้นข้างใน โดยรวมน่าจะซ่อมแซมและเสริมกำลังให้กลับมาแข็งแรงได้ หลังจากนี้ต้องทำการเคลียร์พื้นที่ โดยจะกำหนดและจำแนกแบ่งออกเป็น 1. พื้นที่ที่ไม่มีความเสียหาย 2. พื้นที่ได้รับความเสียหายเล็กน้อย 3. เสียหายปานกลาง 4. เสียหายมาก ก่อนจะเริ่มดำเนินการซ่อมแซมต่อไปหลังจากได้รับอนุญาตจากทางกทม. อย่างไรก็ตามยืนยันว่าสภาพอาคาร 2 มีความมั่นคง ไม่มีโอกาสที่จะทรุดตัวลงมา อาจมีส่วนของโครงหลังคาที่อาจจะมีหล่นลงมาได้บ้าง แต่พื้นของอาคารจะไม่มีการทรุดตัวอย่างแน่นอน











กำลังโหลดความคิดเห็น