MGR Online - ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้อง ป.ป.ท.เอาผิดเจ้าหน้าที่ ปปง.ไม่รายงานเส้นทางการเงิน หลอกขายโทรศัพท์มือห้างมาบุญครอง มูลค่า 6,000 ล้านบาท
วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางยื่นเอกสารร้องทุกข์ต่อนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ป.ป.ท. เพื่อดำเนินคดีอาญาต่อ น.ส.จาริณี ลิขิตธรรมวาณิช กับพวก เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หลังไม่รายงานเส้นทางการเงินของ น.ส.บุศรินทร์ ยีโหน่ด กับพวก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เมื่อปี 2557 สร้างความเสียหายจำนวนมาก
นายอัจฉริยะกล่าวว่า สืบเนื่องจากการขยายผลจับกุม น.ส.บุศรินทร์ ยีโหน่ด และนายมนัส โชติขัน ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลอกขายโทรศัพท์มือถือไอโฟน มูลค่าความเสียหาย 65 ล้านบาท ประมาณ 3,000 กว่าเครื่อง ให้ผู้เสียหาย 8 ราย ก่อนถูกดำเนินคดีเมื่อปี 2557 จากนั้นเจ้าหน้าที่ขยายผลพบเงินจำนวน 50 กว่าล้านบาทของสองผู้ต้องหาดังกล่าวถูกโอนไปยังเจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ทั้งนี้ยังปรากฏว่ามีเงินถูกโอนจากทั่วประเทศเข้ามาในบัญชีร่วม 6,000 ล้านบาทอีกด้วย
โดยมี น.ส.จาริณีกับพวกซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง. และคณะทำงานตรวจสอบเส้นทางการเงินดังกล่าว แต่กลับไม่รายงานให้ผู้บังคับบัญชา และคณะทำงานธุรกรรม ปปง.ปี 2558 รับทราบ ทำให้ยึดทรัพย์ได้เพียงบางส่วนและไม่สามารถดำเนินคดีฟอกเงินได้ สร้างความเสียหายจำนวนมาก จึงทำให้วันนี้ตนเดินทางมา ป.ป.ท.เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ น.ส.จาริณี กับพวก ในความผิดมาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบัญชีเจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง พบว่ายังมีอีกหลายบัญชีที่คาดว่ามีเงินหมุนเวียนมากกว่าหมื่นล้านบาท อยากให้ตรวจสอบส่วนนี้ด้วย
นายประยงค์เปิดเผยว่า รับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แบ่งเป็น 2 ส่วน 1. ทาง ปปง.จะเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่รัฐตามกรอบกฎหมาย ก่อนสรุปเสนอคณะกรรมการ และ 2. ถ้าทุจริตเกี่ยวกับระดับผู้บริหารจะเสนอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป