รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” โดย นพรัตน์ พรวนสุข ออกอากาศทาง News 1 วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2560 ตอน ผู้ว่า สตง.ม้าศึก คสช. ส่ออยู่ต่อลีลาดีได้ใจ
สังคมจับตาการปราบปรามคอร์รัปชั่นของรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ยกขึ้นมาเป็นเหตุผลหลักในการยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 57 ล่วงเลยมาวันนี้ก็หลายปีดีดักแล้วเห็นอะไรกันไปบ้างก็พอรู้กัน ผลงานที่โดดเด่นเหนือใครคงต้องยกให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)
ทันทีที่ คสช.เข้ามา ก็แต่งตั้ง “พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส” ขึ้นแท่นผู้ว่าฯ สตง.เต็มตัว มีอายุงาน 3 ปี ทันที่ที่ได้ตำแหน่งก็สนองนโยบาย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. เต็มสูบ ไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหม
ตั้งเรื่องสอบสวนการใช้จ่ายเงินภาครัฐครั้งแล้วครั้งเล่า ผลงานที่เห็นๆ กันอยู่ คือการทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.หลุดจากเก้าอี้ จากปมการใช้เงินเกือบ 30 ล้านจัดแสดงไฟให้คน กทม.ได้ไปถ่ายรูปช่วงปีใหม่ปีก่อนโน้น
ตรวจสอบการใช้จ่ายงบทัวร์นอกของหน่วยงานภาครัฐ ตามคำพูด “บิ๊กตู่” ที่ให้รัดเข็มขัดการใช้จ่าย นำเงินภาษีของประชาชนไปเที่ยวเล่นเมืองนอกไม่ได้
สตง.รับลูกสินบนข้ามชาติ “บริษัท โรลส์รอยซ์” ที่ประเทศต้นทางทั้งอังกฤษ อเมริกา สาวไส้พวกเดียวกันเองแต่ดันมีหน่วยงานภาครัฐของไทยไปมีเอี่ยวทั้ง การบินไทย ปตท.
สตง.ตามไล่บี้ จนเรื่องเหมือนจะบานปลาย ประเทศต้นทาง พาลจะไม่ส่งข้อมูลให้ เพราะกลัวความลับรั่วไหลกระทบคดีความของเขา
สุดท้ายหน่วยงานตรวจสอบภายใต้ ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ต้องจับเข่าคุย ทั้ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ สตง.
สรุปรวมความให้ ป.ป.ช.เป็นเจ้าภาพ วันนี้มีการตั้งอนุกรรมการสอบสวนนักการเมืองหลายคน อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี อดีต รมช.คมนาคม
มาวันนี้เปิดประเด็นรีดเงินภาษี “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ จากการขายหุ้นชินคอร์ป ที่ทุกคนลืมไปแล้ว ให้ต้องจ่ายเงินหนึ่งหมื่นหกพันล้าน โดยไล่บี้ไปที่กรมสรรหากร ที่ละเลยเรื่องนี้มานานต้องดำเนินการให้ได้
เท่านั้นยังไม่พอ ผลงาน สตง.ยังเดินหน้าต่อ
คราวนี้สะท้านสะเทือนวงการการเมืองกันเลย
เพราะไปไล่บี้กรมสรรพากร เรียกเก็บภาษีของนักการเมือง 2 ยุค ในรัฐบาล นายกฯ มาร์ค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เริ่มต้นดูจากการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเหล่านักการเมืองตอนเข้ารับตำแหน่งและออกจากตำแหน่งเมื่อ คสช.เข้ามา พบมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นบานตะไท บางคนหลัก 100 ล้าน 1,000 ล้าน ส่วนที่น้อยๆก็มี 50 ล้านเป็นอย่างต่ำ
แม้กรมสรรพากรชี้แจงว่านักการเมืองเหล่านี้ ป.ป.ช.บอกว่าไม่ได้ร่ำรวยผิดปกติ แต่มุม สตง. บอกเมื่อมีเงินได้ก็ต้องเสียภาษี ส่วนใหญ่ที่จ่ายมาเป็นเพียงเงินได้จากเงินเดือน ส่วนที่เหลืออยู่ที่ไหน ไปตามเรียกเก็บมา
ได้ยินว่ารายชื่อล็อตแรกที่ส่งไปร่วมร้อย ตอนหลังคัดให้เน้นๆ 60 คน ครอบคลุม 2 ยุครัฐบาล ไม่จำกัดแค่ 2 พรรคการเมืองใหญ่ โดนกันถ้วนหน้า
แว่วๆ คนที่เจอเรียกสอบภาษีย้อนหลังมีชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ และนายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง รวมอยู่ด้วย
ทั้ง “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์-ทักษิณ-นักการเมืองที่ถูกไล่เก็บภาษีย้อนหลัง” คงต้องจำชื่อ “พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส” ขึ้นใจ เพราะทุกคนต่างจะจบแบบรอดสันดอนอยู่แล้ว มางานงอกตอนท้ายเหมือนกันหมด
งานนี้คงต้องยกให้ “พิศิษฐ์” เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันของ คสช. เปิดเกมรุกทำงานให้รัฐบาลอย่างถวายหัว
แต่ไม่ใช่แค่เกมรุก เกมรับก็ดูดีขึงขังไม่ปล่อยผ่าน
เรื่องร้องเรียน คนวงใน คสช. มีเข้ามาถึง สตง.ก็ต้องตรวจสอบ
ทั้งเรื่องที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พาคณะบินเหมาลำไปประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน –รมว.กลาโหมสหรัฐอเมริกา อย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN – US Defense Informal Meeting ) ระหว่าง 29 ก.ย. 2 ต.ค. 59 ณ มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ใช้เงินไป 20 กว่าล้านบาท
เมื่อสังคมตั้งคำถามไปถึง สตง.ว่าเป็นการใช้เงินภาษีอย่างคุ้มค่าหรือไม่ ตรวจสอบแล้วยืนยันการบินเหมาลำคุ้มค่ากว่าการให้ไปกันเอง และอาหารในเครื่องบินก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะบริการเมื่อเหมาลำแล้ว
จะถูกซุบซิบว่ารับใช้อำนาจไม่กล้าลงดาบขาใหญ่ยังไงก็ไม่สน ไหนจะมีเรื่องของ “บิ๊กติ๊ก” ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายสุดที่รักของนายกฯ เรื่องมาก็รับไว้แต่เงียบไป
ก็เรียกได้ว่าเล่นได้ทั้งเกมรุกเกมรับ ด้วยลีลาแพรวพราว
ผู้ว่าฯสตง. คนนี้จะอายุครบ 65 ปี และต้องหมดวาระตามกฎหมาย ของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เม.ย.นี้แล้ว ใครมานั่งเก่าอี้ต่อคงเหนื่อยหน่อยเพราะคนเก่าเป็นม้าศึกชั้นเยี่ยม ทำงานไว้ดี
แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน เมื่อ คสช.ยังมี ม.44 อยู่ในมือใครจะไปรู้ ผู้ว่าฯ สตง.คนต่อไปอาจชื่อ “พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส” อีกครั้งก็ได้