xs
xsm
sm
md
lg

รวบ 2 โจรขึ้นบ้านจักษุแพทย์ งัดเซฟกวาด 16 ล้าน ประวัติโชกโชนเลือกบ้านไม่เปิดแอร์-ตั้งไฟอัตโนมัติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “ศานิตย์” ร่วมกับตำรวจ บก.น.4 แถลงรวบสองตีนแมวขึ้นบ้านจักษุแพทย์หญิงโรงพยาบาลบีเอ็นเอช งัดตู้เซฟกวาดทรัพย์สิน 41 ราย ร่วม 16 ล้านบาท รับสารภาพหาเงินเที่ยวเตร่และเสพยา จะตระเวนตามบ้านที่ไม่เปิดแอร์และตั้งไฟอัตโนมัติไว้ พบประวัติโชกโชน


วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต. สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส ผบก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.ประสาน แก้วมหาสุริวงษ์ รอง ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.รณกร วงศ์ภู่มณี สว.กก.สส.บก.น.4 พ.ต.ต.จิตติชัย รัตนวรประดิษฐ์ สว.กก.สส.บก.น.4 แถลงจับกุม นายพงษ์พัฒน์ หรือฟูฮาร์ท มะทะวงศ์ อายุ 23 ปี, นายพุทธพงศ์ หรือบอล หล่อนิล อายุ 19 ปี พร้อมของกลางแหวนเพชร สร้อยคอทองคำ นาฬิกาข้อมือ จี้เพชร นาฬิกาข้อมือ ธนบัตรเงินสดสกุลเงินต่างๆ รวมของกลาง 41 รายการ มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สินหรือผ่านโดยสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ ในเคหสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม สามารถจับกุมนายพงษ์พัฒน์ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยลาดกระบัง 24 แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. และจับกุมนายพุทธพงศ์ได้ที่บ้านเลขที่ 69/1 ซอยลาดพัฒนา 28 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ก่อนนำตัวส่งส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมามีคนร้ายสองคนใช้ยาพาหนะในการหลบหนีเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์โดยวิธีการงัดตู้เซฟภายในบ้านเลขที่ 11 ซอยรามคำแหง 60 แยก 5 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. บ้านพักของ พ.ญ.ณัฐรินทร์ ภูษิตโภยไคย จักษุแพทย์ของโรงพยาบาลบีเอ็นเอช รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมไปประมาณประมาณ 16 ล้านบาท ต่อมาชุดจับกุมออกสืบสวนพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจึงแกะรอยทราบว่าผู้ก่อเหตุคือคนร้ายทั้งสองคน จึงเฝ้าสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางบางส่วนของผู้เสียหายที่ถูกลักทรัพย์ไปกว่า 41 รายการ

นายพงษ์พัฒน์กล่าวว่า ก่อนก่อเหตุจะออกสำรวจตามหมู่บ้านต่างๆ โดยจะเลือกลงมือกับบ้านที่ไม่มีคนอาศัย หรือบ้านที่ไม่เปิดเครื่องปรับอากาศและบ้านที่ติดไฟฟ้าหน้าบ้านแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ หลังจากได้ทรัพย์สินแล้วจะนำมากระจายให้เครือข่ายรวมถึงญาติพี่น้อง และจะทยอยนำทรัพย์สินมีค่าออกทำการจำหน่ายตามร้านขายทอง และโรงรับจำนำต่างๆ ส่วนเงินตราต่างประเทศจะนำไปแลกที่เคาน์เตอร์ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเงินที่ได้มาทั้งหมดจะไปซื้อยาเสพติดเสพ และเที่ยวเตร่ ช่วงก่อนหน้านี้ 1 ปีร่วมกันตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วประมาณ 20 ครั้ง ในที่พื้นที่ บก.น.4

จากการตรวจสอบประวัตินายพงษ์พัฒน์ พบเคยถูกดำเนินคดีครอบครองยาเสพติด 1 ครั้ง เสพยาเสพติด 2 ครั้ง และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน 3 ครั้ง และพ้นโทษจากเรือนจำพิเศษมีนบุรีเมื่อเดือน พ.ค. 59 ปัจจุบันหนีทหารเกณฑ์ ซึ่งสังกัดอยู่ใน ร.11 พัน.1 รอ. ส่วนนายพุทธพงศ์เคยถูกดำเนินคดีข้อหาครอบครองยาเสพติด 1 ครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น