Manager Online - ฝากขังหนุ่มลูกนักธุรกิจเจ้าของตลาดนัดลาดพร้าว ซิ่งเบนซ์ชนยับ ผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่ดับ ส่วนลูกวัย 7 ขวบเจ็บ ด้านเสี่ยผู้เป็นพ่อมือขับพร้อมดูแลค่ารักษาและขอรับเป็นบุตรบุตรธรรม
วันนี้ (16 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สน.คันนายาว พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ได้เรียกตัวนายพัทธศาสตร์ เทพสถิตย์ภรณ์ อายุ 18 ปี มาแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส มีทรัพย์สินเสียหาย หลังจากก่อเหตุขับรถชนจนมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิตอีก 1 ราย บนถนนคู่ขนานเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก แขวงบางชัน เขตคันนายาว กทม. เหตุเกิดเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สิงห์กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 มี.ค. นายพัทธศาสตร์ขับรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ สปอร์ต 2 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌพ 4411 กทม.มาตามถนนคู่ขนานเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้กับแฟชั่นไอส์แลนด์ เป็นถนนสวนเลน จากนั้นนายพัทธศาสตร์ตัดสินใจแซงออกขวาแล้วเร่งความเร็ว เพื่อแซงรถคันหน้าแต่ไม่พ้น ไปเฉี่ยวชนกับรถยนยี่ห้อมาสด้า สีดำ ไม่ทราบรายละเอียดและพุ่งชนประสานงากับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน ฌฐ 8418 กทม.จนมีผู้เสียชีวิต ทราบชื่อนางนุจิรา คชายนต์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/1027 ซ.นิมิตรใหม่ 40 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม. ในรถยังมี ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส นำตัวส่ง รพ.พญาไท นวมินทร์ ส่วนนายพัทธศาสตร์ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเช่นกัน จากการตรวจสอบไม่พบแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด หรือสารเสพติดแต่อย่างใด
ด้านนายเฉลิม เทพสถิตย์ภรณ์ อายุ 57 ปี พ่อของนายพันธศาสตร์กล่าวว่า ตนทำธุรกิจเป็นเจ้าของตลาดนัดในซอยลาดพร้าว 101 ส่วนลูกชายเป็นนักศึกษาปี 1 ม.ศรีปทุม คืนเกิดเหตุช่วงค่ำลูกชายไปทำรายงานที่บ้านเพื่อนย่านลาดพร้าว-วังหิน โดยขออนุญาตขับรถเบนซ์ของแม่ไป จากนั้นเวลาประมาณ 01.00 น.ตนเห็นว่าดึกมาแล้วจึงโทรศัพท์เร่งให้ลูกรีบกลับบ้าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น.ลูกชายรีบขับรถกลับบ้านโดยใช้ความเร็วและขับแซงจนเกิดเหตุสลดขึ้น ตนพร้อมจะดูแลเรื่องค่ารักษาเด็กที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล หากเป็นไปได้ตนอยากจะขอเด็กมาเป็นลูกบุญธรรมเพื่อดูแลอย่างเต็มที่ต่อไป
พ.ต.อ.สิงห์กล่าวว่า นายพันธศาสตร์มีใบอนุญาตขับขี่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เบื้องต้นมีการคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อหาแล้วส่งตัวฝากขังศาลจังหวัดมีนบุรีต่อไป