MGR Online - “ศรีวราห์” ระบุกองปราบฯ พร้อมรับโอนสำนวนคดี 18 ผู้ต้องหาโจ๋เมืองเพชรบุรีร่วมกันฆ่า “น้องปอนด์” เผยยังไม่พบการคุกคาม และการช่วยเหลือตำรวจในพื้นที่กับกลุ่มผู้ต้องหา มีเพียงพยานที่รู้สึกเกรงกลัวอิทธิพล ส่วนเรื่องคลิปที่ “ทนายสงกานต์” อ้างถึง ขณะนี้ยังไม่ได้รับหลักฐานดังกล่าว
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่กลุ่มผู้ต้องหา 18 ราย ร่วมกันลงมือก่อเหตุฆ่านายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน หรือน้องปอนด์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยใช้ไขควงแทงที่ศีรษะจนเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตได้เข้าร้องทุกข์เพื่อขอให้ช่วยคุ้มครองพยาน และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมทางคดีเนื่องจากฝ่ายผู้ก่อเหตุเป็นบุตรหลานของนักการเมืองท้องถิ่นและคนมีสี จึงมีคำสั่งให้โอนสำนวนคดีดังกล่าวมาให้พนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินคดีแทน และในวันที่ 14 มีนาคมนี้จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมสำนวนคดีดังกล่าวมาดำเนินการที่ บก.ป. หลังจากพยานในคดีนี้ระบุว่าเกรงกลัวอิทธิพลในพื้นที่จึงไม่กล้าให้ข้อมูลต่อตำรวจ แต่ก็ยังไม่พบว่ามีการคุกคามใดๆ และยังไม่พบว่ามีการช่วยเหลือกันระหว่างตำรวจในพื้นที่กับทางกลุ่มผู้ต้องหา มีเพียงพยานที่รู้สึกเกรงกลัวอิทธิพลจึงต้องมอบหมายให้ตำรวจ บก.ป.ดำเนินการเพื่อเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานต่อไป
เมื่อถามว่า พบการกระทำที่เข้าข่ายลักษณะการข่มขู่พยานในคดีนี้แล้วหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบ ส่วนการกระทำที่เข้าข่ายความผิดฐานซ่องโจร ด้วยหรือไม่นั้น คงขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ถ้าไปถึงและเข้าข่ายความผิดก็สามารถพิจารณาดำเนินคดีได้ แต่ถึงขั้นนี้คงต้องรับตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำก่อน อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบประวัติในเบื้องต้นไม่พบว่าทั้งหมดเคยก่อคดีลักษณะนี้มาก่อน โดยในจำนวนผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ตามหลักฐานที่ปรากฏก็สามารถพิจารณาเอาผิดได้ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร ใครเป็นผู้ลงมือก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตในครั้งนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ ระบุว่ามีหลักฐานเป็นคลิปเสียงของกลุ่มผู้ต้องหาด้วยกันเอง ทางพนักงานสอบสวนได้นำมาตรวจสอบแล้วหรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหลักฐานดังกล่าว คาดว่าน่าจะได้รับในวันที่ 14 มีนาคมนี้เช่นเดียวกัน และคงจะต้องมีการพิจารณาตามขั้นตอนว่าเป็นเสียงของกลุ่มผู้ต้องหาจริงหรือไม่ และหากเป็นจริงก็คงต้องพิสูจน์ทราบเพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานทางคดีต่อไป