MGR Online - ชาวบ้านร้องดีเอสไอ เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์สร้างอุทยานบุกรุกคลองสาธารณประโยชน์บนเนื้อที่บึงบอระเพ็ด-ถมคลองสาหร่าย 300 ไร่ ระบุเคยไปร้องเรียนทำเนียบรัฐบาล สำนักพุทธศาสนาฯ แต่เรื่องเงียบหาย
วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางขนิษฐาน รัตนพัฒนากุล บ้านเลขที่ 162/14-15 ถนนมาตุลี ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ สิทธิกรณ์ ทนายความ เดินทางร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อกล่าวโทษต่อพระเทพปริยัติเมธี (ฐิตพัฒน์ ญาณสิทธิพัฒน์) เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ฐานบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ ถมคลองสาหร่าย จนชาวบ้านได้รับผลกระทบจำนวนมาก โดยมีนายณัฐวุธ นิติวรยุทธ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนและบริการข้อมูลข่าวสาร ดีเอสไอ เป็นผู้แทนรับมอบ
นายสุรพงษ์กล่าวว่า วันนี้ตัวแทนผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอเพื่อรับเป็นคดีพิเศษ กรณีพระเทพปริยัติเมธี เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ จัดทำโครงการพุทธอุทยานนครสวรรค์ หมู่ 6 ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ทำการถมดินบุกรุกที่สาธาณประโยชน์บริเวณบึงบอระเพ็ดและทำการถมคลองสาหร่ายซึ่งเป็นคลองระบายน้ำที่เชื่อมต่อบึงบอระเพ็ดกับแม่น้ำเจ้าพระยาจนปัจจุบันไม่มีสภาพคลองดังกล่าว เป็นเหตุให้ประชาชนที่อยู่บริเวณรอบบึงบอระเพ็ดได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากมีการขวางทางน้ำจนไม่สามารถระบายน้ำได้ ในฤดูฝนและเกิดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร รวมถึงการก่อสร้างโครงการนั้น ดำเนินการในที่ดินสาธารณประโยชน์บริเวณปากบึงบอระเพ็ด ตั้งแต่ปี 2548 มาเรื่อยๆ ทั้งนี้ ตามแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นว่าโครงการดังกล่าวได้บุกรุกคลองสาธารณประโยชน์ มีการถมดินสร้างบริเวณกลางคลองสาหร่ายความลึกประมาณ 6 เมตร โดยทราบว่ามีผู้บริจาคพื้นที่ 100 ไร่ในการสร้างโครงการและมีการออกเอกสาร ส.ค.1 จึงต้องการให้ตรวจสอบด้วยเนื่องจากมีการถมดินเกินเป็นจำนวน 300 ไร่ ว่าถูกต้องหรือไม่
“รวมทั้งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ และจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ก็ได้ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ดินดังกล่าว จึงอยากให้ตรวจสอบว่าถูกกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงได้มีวัดเครือข่ายกับวัดที่เป็นข่าวใน จ.ปทุมธานี ซึ่งพระที่หายไปอาจอยู่ที่นั้นด้วยหรือไม่ โดยพระเทพปริยัติเมธีได้เสนอผลงานโครงการดังกล่าวแก่มหาเถรสมาคมจนได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นชั้นเทพเรียบร้อยแล้ว”
นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายเคยไปร้องเรียนที่สำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2560 รวมทั้งสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่เสนอข่าวแต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ อีกทั้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เคยร้องเรียนผ่านสำนักพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครสวรรค์ แต่กลับถูกปฏิเสธเพราะว่าไม่มีอำนาจตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม การไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้เพราะอาจมีผู้มีอิทธิพล และอดีตนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวด้วยหรือไม่
ด้านนายณัฐวุธเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องดังกล่าวให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณาก่อนจะดำเนินการขั้นต่อไป