ระวัง “เข้าสูตร” ธรรมกาย-มหานิกาย-เพื่อไทย-เสื้อแดง / จวกเละ “เห็บหมา-แท็กซี่” ทำส่วนรวมเสียหาย วอนสังคมช่วยกันจัดการอย่ายอมให้พวกเอาเปรียบชาวบ้านลอยนวล แฉ 1584 ร้องเรียนแท็กซี่เลวมีหนอนบ่อนไส้ แอบส่งข้อมูลผู้ร้องให้โดนข่มขู่/ “จับไต๋” ตำรวจหากินค่าปรับ ลดกระแสต่อต้านเน้นใช้กล้อง “แจกว่อน” ใบสั่งถึงทุกครัวเรือน แต่ยัง “หน้าทน” แบ่งเปอร์เซ็นต์ต่อไปอย่างหน้าตาเฉย
“...เวลาคนมีการปฏิบัติรุนแรงมันลืมตัว ลงท้ายเขาไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไรแล้วก็จะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้แล้วที่แพ้ที่สุด คือ ประเทศชาติ...” พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2535
....สวัสดีขอรับท่านผู้อ่าน และมิตรรักแฟนประจำที่รัก...สัปดาห์แห่งความ “ร้อน” มันช่างอบอ้าวร้อนจนถึง “โคตรร้อน” ราวมีชีวิตอยู่ในเตาเผา...หลายโรงเรียนปิดเทอมยาวกันแล้ว ข่าวน้องๆ จมน้ำตายเริ่มโผล่ให้เห็นบ่อยครั้ง คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายโปรดระมัดระวังกันให้ดี...เด็กเล็กอย่าได้คลาดสายตา เด็กโตให้เตือนกันทุกวันแต่ทางที่ดีรายไหนว่ายน้ำไม่เป็นต้องพาไปเรียน พาไปฝึก..กระพ้มนาย “บิ๊กเกรียน” นักข่าวเก่าและแก่ ยามนี้เป็นทั้งปู่เป็นทั้งตาลูก-หลานเต็มบ้าน...เห็นอะไรมาเยอะ ไม่อยากให้ท่านที่รักต้องประสบความสูญเสียในครอบครัว...กันไว้ดีกว่าแก้เพราะชีวิตลูก-หลาน ก็คืออนาคตของครอบครัวนั่นเอง...
00000.....ทักทายผู้มีพระคุณของกระพ้มเรียบร้อยก็ขอเดินหน้า-เข้าประเด็นที่ตั้งใจนำเสนอดีกว่า....ยุทธการ “ยกทัพจับสึก” กลายเป็นลิเกระดับประเทศ เรื่อง “ขี่ช้างจับตั๊กแตน” (เขาว่างั้น) 23 วันของการใช้กำลังคน กำลังทรัพย์เพื่อจัดการกับ “ธัมมชโย” กระพ้มขอวิจารณ์ตามเนื้อผ้าว่า “มากเกิน” และค่อนข้างผิดหวัง....มีตัวเลขออกมาแฉ 12 วันหลวงใช้งบไป 12 ล้าน รวมเบ็ดเสร็จค่าตามล่าพระแก่ๆ ทะลุกว่า 100 ล้าน...ข้อมูลน่าสนใจในมุมของกระพ้ม คือ 1. กำลังพลตำรวจ-ทหาร-ดีเอสไอ ระดมกันมากมาย ในแต่ละวัน 4-5 พันนาย 2. มีการโกงข้าวกล่อง-น้ำดื่ม ขายแบบ “ล็อกคอตีเข่า” หักเอาจากเบี้ยเลี้ยงชุดละ 80 บาท 3. มาตรการ “บีบคั้น-ปิดล้อม” ทำให้เกิดโศกนาฏกรรม 2 ราย คือ การตายของลุงอนุวัช ธนเจริญณัฐ กับ น.ส.พัฒนา เชียงแรง 4. ข้อนี้สำคัญ...ข่าวการจู่โจม-ปิดล้อมวัดพระธรรมกาย มิใช่เพียงนำเสนอภายในประเทศเท่านั้น แต่สำนักข่าวอัลจาซีรา-บีบีซี และอีกหลายสำนักด้วยแง่มุมที่หลากหลาย-อิสระ “ภาพ-ข่าว” ต่างๆ ที่ตอกย้ำกันทุกวัน “ภาพพจน์” ประเทศไทย และศาสนาประจำชาติช่วยกันคิดหน่อยจะได้ บวก หรือลบ
00000.....วันที่ 10 มีนาคม 2560 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งโต๊ะแถลงยุติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย และยกเลิก ม.44 เกิดปฏิกิริยาขึ้นมาทันที มีทั้งผิดหวัง มีทั้งดีใจ แต่หลายคนได้สติ ไม่ดีใจเสียใจ แต่ทบทวนกันว่าตกลงแล้วปฏิบัติการ “ล้มธรรมกาย” ภายใต้ “ไฟเขียว” ของรัฐบาลนั้นใครแพ้ ใครชนะ และใครเป็นฝ่ายได้ประโยชน์....ฝ่ายผู้ถืออำนาจประเคนความผิดให้ถึง 343 คดี...สารพัดข้อมูลที่ทยอยออกมา “คลึง” แต่ดูเหมือนว่า “ศรัทธา-ธรรมกาย” ของบรรดาสาวก “ธัมมชโย” ยังคงเหนียวแน่น...ประมาณว่า ให้กำจัดจอกแหน หรือผักตบชวา ยังง่ายกว่า.....ก้าวต่อไปขอให้ฝ่ายความมั่นคง หรือผู้มีสติปัญญาเอาไปใคร่ครวญคิด...การถอยร่นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย....ธัมมชโย จะอยู่หรือหนีไม่น่าใช่ประเด็นสำคัญอีกต่อไป....ที่สำคัญกว่าคือเมื่อ “ตีงูหลังหัก” เท่ากับท่านได้ส่งบัตรเชิญให้มีการหลอมรวมระหว่าง “ธรรมกาย-มหานิกาย-เพื่อไทย และ คนเสื้อแดง” อย่างมิได้นัดหมาย (รึเปล่า)....อย่างไรก็ตาม การประกาศยุติปฏิบัติการขี่ช้างจับตั๊กแตน “ห่มเหลือง” ของท่านอธิบดี DSI ...ส่วนตัวของกระพ้มเชื่อว่าผู้ปกครองประเทศได้บวก-ลบ-คูณ-หาร “ถอดสแควรูท” แถมเอากระชอนร่อนแป้งอยู่หลายรอบจนได้คำตอบ...“ไอ้เสือถอย”....เชื่อท่านผู้นำแล้วพ้นภัยเห็นท่าจะต้องกลับมาใช้กันอีกรอบ...ใช่ไหมคับนายกฯลุงตู่ !!??
00000.....ผ่านเรื่องพระผนวกการเมืองมาเรื่อง “การบ้าน” ที่กำลังเผชิญปัญหายาเสพติดอย่างหนัก และเป็นที่รู้กันว่ามีตำรวจ 0.01% หรือตำรวจเผ่าพันธุ์ชั่วซึ่งเป็นส่วนน้อยยยยยย..นิด..กระติ๊ดเดียวแฝงตัวกับขบวนการนี้อยู่...หลายวันก่อนกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 โดย พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 ทนไม่ไหว...ระดมพลหมดเกลี้ยงกองบังคับการฯ ทำพิธีให้คำปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมรูปพระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ ฝั่งธนบุรี ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด “บิ๊กเกรียน” ถอดคำพูดไว้ทุกคำ...เยี่ยมสุดคือช่วงท้ายที่สาบานว่าหากผิดคำสัตย์ขอให้ภยันตรายทุกประการประสบแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดไป.....“แอ็กชั่น” ครั้งนี้ น่าจะมาจากผลการจับกุมแก๊งตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บวรมงคล สังกัด บก.น.7...ตำรวจฝั่งธนฯเสียหายหนัก จึงจำเป็นต้องกอบกู้ศักดิ์ศรี....“บิ๊กเกรียน” มองโลกอย่างเข้าใจ...ตำรวจไทยดีมากกว่าเลวแน่นอน แต่ที่ดีมิได้หมายถึงเนื้อตัวเกลี้ยง-ขาวสะอาดจนสามารถดมพิสูจน์ได้...“ตำรวจดี” ในที่นี้คือ “เลว” ให้น้อยที่สุดก็ถือว่าดีแล้ว.....เรื่องสาบาน-ปฏิญาณตนอย่างมองเป็นเรื่องขำ-ขัน....ไม่งั้นก่อนทำพิธีสำคัญ หรือแม้แต่ขั้นตอนในศาลสถิตยุติธรรมจะมีการสาบานตนเหรอ....กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีถึง 9 กองบังคับการ เพิ่งแสดงเจตจำนงมาแค่ 1 เหลืออีก 8 “อมสาก” อะไรไว้ !!??....ระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “อย่าเฉย” ว่างจากธรรมกาย น่าจะจะสาบานตำรวจทั้งประเทศ ให้เลิกข้องแวะกับสิ่งผิดกฎหมาย ให้เลิกกดขี่ข่มเหงชาวบ้าน...ทำเหอะได้ใจประชาชนอ่ะ
00000.....ร้อนโว้ยเฮ้ยร้อน !!??....ยิ่งร้อนหนักเมื่อโบกแท็กซี่มันไม่ยอมรับ...“บิ๊กเกรียน” นักข่าวเก่าและแก่เข้าถึงความเดือดร้อนของท่านพ่อแม่พี่น้องที่จำใจต้องใช้บริการแท็กซี่เป็นอย่างดี เพราะประสบกับตัวเองบ่อยๆ เรียกว่าแท็กซี่คันไหนยอมให้ขึ้นรถแทบจะ “กราบไข่” พี่โชเฟอร์เลยก็ว่าได้....เฮ้ย!!?? ปัญหา 108 ของประเทศนี้มันเกิดจากอะไร (วะ)...จะโทษกฎหมายไม่เข้มข้น หรือหน่วยงานรับผิดชอบไม่เอาไหนก็พูดไม่เต็มปาก...วันก่อนนายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ลงทุนลงพื้นที่ “ลองของ” โบกแท็กซี่ 23 คันแมร่งปฏิเสธ-ไม่รับ 21 อีก 1 ยอมแต่มีเงื่อนไขไม่กดมิเตอร์หรือจะใช้ระบบเหมา....พฤติการณ์ “แท็กซี่ 99.99%” ที่ไม่ยอมรับผู้โดยสารทำไงก็แก้ไม่ตก...เรียกมาปรับก็แล้ว...เรียกมาเตือนก็แล้ว...บางรายถึงกับยกเลิกใบอนุญาตขับขี่สาธารณะแต่มันก็มีพวกชั่วพวกเลวก่อกรรมทำเข็ญกับชาวบ้านทุกวัน...ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอทำหน้าที่ “กระซวก” แท็กซี่เลวๆ (ดีๆ ไม่เกี่ยว) ซักวัน....นอกจากปฏิเสธผู้โดยสาร และทำมาหากินอย่าเจ้าเล่ห์เอารัดเอาเปรียบชาวบ้านในทุกรูปแบบแล้ว (รถเก่า รถเน่า โกงมิเตอร์) แท็กซี่บางคัน-บางคนยังเป็นภัยต่อหญิงสาว มีทั้งแอบถ่ายคลิป ใช้วาจาแทะโลม บ้างหนักข้ออนาจารเลยก็มี...
00000.....หลายคนแต่งกายผิดระเบียบ สกปรก ปากเหม็น ตีนเหม็น สูบบุหรี่ กิริยามารยาทสุดสถุล....ขอโทษ จำเป็นต้องเขียนแบบนี้ทั้งที่แท็กซี่ดีๆ ก็เยอะแต่ที่ “เอี้ย” ก็แยะ....เรื่องความสะอาด กิริยามารยาทเขากำหนดไว้เป็นระเบียบปฏิบัติ..แท็กซี่คืออาชีพบริการอย่างหนึ่ง เมื่อเลือกมาเป็น เลือกมาทำก็ต้องพร้อมด้วยความยินดี-เต็มใจ...ทำไม่ได้อย่า... “เสือกทำ” เพราะจะทำให้แท็กซี่ดีๆ เขาเสียหาย....วิธีแก้สไตล์ “บิ๊กเกรียน” เมื่อเจอกับตัวอย่าไปยอมมัน...ถ่ายคลิป..ถ่ายรูปร้องไปที่กรมการขนส่งฯ หรือ โทร.1584 ถ้ายังไม่พอให้แจ้งไปยังเพจ “พวกเราเกลียดแท็กซี่เลว” หรือ I HATE BAD TAXI ....แต่ๆๆๆๆๆ 1584 บางจังหวัดก็มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้ใจ กล่าวคือเมื่อมีประชาชนร้องเรียนทาง จนท. กลับขอชื่อ ที่อยู่และเบอร์โทร โดยอ้างว่าจะติดต่อกลับ...รู้ไหมเกิดอะไรขึ้น...ผู้ร้องหลายรายเคยเจอดีถูกแท็กซี่คู่ปรับ (จำเสียงสนทนาได้) มันโทรศัพท์มาขู่ มาด่า..ว่ากันขนาดนี้ท่านอธิบดีฯธีระพงษ์ ....กรุณาอย่านิ่ง อย่านิ่ง !!??
00000.....แว่บเรื่อง “ใบสั่ง - ค่าปรับ” ที่มีแควนๆ ร้องเรียนผ่านกระพ้มมาไม่ขาดสาย...ก็รู้กันทั่วแล้วว่าเม็ดเงินค่าปรับเช้าหลวงจริงๆ เพียง 5% โดยมีตารางตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆเช่นค่าปรับ 200 บาทแบ่งเป็นให้ กทม.หรือท้องถิ่น 100 บาท อีกครึ่งเป็นของตำรวจคนจับ 57% ผู้สนับสนุน (บรรดาเจ้านายนั่งห้องแอร์) 38% ที่เหลือ 5% เข้าหลวง.....สัดส่วนโคตรน่าเกลียดแบบนี้ไม่ทราบว่าท่านผู้มีอำนาจทนกันได้อย่างไร...นี่ไม่รวมตั้งด่านลอย ด่านผี รีดไถ พอถูกแรงต้านมากๆ แทนที่ผู้บริหาร-ผู้มีอำนาจ จะมองเห็นว่าชาวบ้านเดือดร้อนกลับเลือกวิธีใช้กฏหมายบังคับอย่างถึงพริกถึงขิง....จราจรติดขัดเพราะอะไร...เพราะ 1. รถมันเยอะ 2. ผู้มีอำนาจ-หน้าที่ รับผิดชอบไม่มีความสามารถ....ไอ้ที่โยนโครมๆ มาลงกระบาลชาวบ้านหาว่ามักง่าย-ไม่มีวินัยการจราจร เป็นสาเหตุรถติด...เฮ้ออออ !!?? ... “บิ๊กเกรียน” ขอถอนหายใจยาวยาวววว...ที่มักง่าย ปาดหน้าปาดหลัง เบียดตามคอสะพาน ย้อนศร ฝ่าไฟ ฝ่ายสัญญาณจราจร หรือจอดในที่ห้าม อันนั้นมันมีส่วนอยู่แล้วแต่ไม่ใช่ทั้งหมด....กราบเรียนท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หน.คสช. เรื่องกวดขันวินัยจราจรก็ดี หรือการเปลี่ยนจากให้ตำรวจไปจับเองมาใช้เป็นกล้องก็ดี ไม่มีใครขัดข้อง แต่ที่ “ข้องใจ” คือ “ใบสั่ง” ที่ส่งมาตามบ้านทั้งข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก ขับรถเร็ว ท่านทราบไหมว่าตำรวจภายใต้ความรับผิดชอบของท่านเขาคิดราคาค่าปรับแบบไหนกับประชาชน....ไม่สวมกันน็อก 500 บาท...ขับรถเร็ว 500-1,000 บาท.....ค่าแรงวันละไม่ถึง 300 ทั้งที่กฎหมายกำหนดแบบนั้น แล้วจะให้ประชาชนเหลือไปรับทานอะไร
00000.....ท่านอาจจะแย้งว่าไม่อยากจ่ายค่าปรับก็ทำให้ถูกกฎหมายเสียซิ....อ้าวววว....ไม่เพิ่มเป็นประหารชีวิตไปซะเลยล่ะ!! ...อันคนทำผิดกฎจราจรมันจำแนกเป็นหลายประเภท มักง่ายก็เยอะ...พวกสบายตามใจฉันก็เยอะ แต่บางคนอาจเกิดจากความพลั้งเผลอ...นโยบายกะเอากันให้ตายเลยเหรอขอรับ....ที่สำคัญ ตำรวจ “ใช้กล้องทำงาน” ระเบียบทำมาหากินกับค่าปรับสมควรเปลี่ยนได้แล้วมั้ง....จะแบ่งให้ใครก็ตามแต่ของตำรวจสลึงเดียวก็ไม่ควรได้....เงินเดือนก็เอาไปแล้ว...เบี้ยเลี้ยง-สวัสดิการ (ไม่รวมรีดไถ) จะ “ยัดทาน” อะไรกันอีก...โดยเฉพาะเจ้านายนั่งห้องแอร์...ไม่ละลาย-ไม่รู้สึกเขินอะไรเลยหรือ...นี่ไงกฎหมายยิ่งมาก-นโยบายกวดขันยิ่งเยอะ ไงก็หวานหมูพวก “ตำหนวด” เห้ๆ (ตำหนวดดีอย่าสะดุ้ง)...ล่าสุด นายภีรสิทธิ์ จิระวงศ์ไพศาล แอดมินเพจปลดแอกชาวสองล้อ พาสมัครพรรคพวกกว่า 100 บุกโรงพักพญาไท ยื่นข้อเสนอให้ยกเลิกตั้งด่านบนสะพานลอย รวมทั้งอื่นๆ 5 ข้อแต่ไม่ยัก “ปลดแอก” เปอร์เซ็นต์ ใบสั่ง....
00000.....อยากเตือนคุณน้อง...มายาตำรวจมีเยอะเลิกด่าน-เลิกจับแต่หันไปใช้กล้องอันนี้หนักหนาสาหัสกว่า...เปล่ามิได้ชักชวนให้ “ดื้อ” หรือทำผิดกฎหมาย....ตำรวจจะใช้กล้อง...ใช้ตอร์ปิโดไล่จับไล่ส่องอะไรก็ทำไปเหอะแต่ “ค่าปรับ” อย่าขุดเลือดเนื้อ...ข้อหาย้อนศร-ฝ่าไฟ-จอดที่ห้าม-เบียด-ปาด-ขับบนทางเท้า-ไม่มีใบขับขี่ -ไม่เสียภาษี อย่างนี้ก็เอาเข้าไปดิ...สิ่งที่พวกเราทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ อาจจะรวมถึง 10 ล้อ สมควรทำในยามนี้คือช่วยกันรณรงค์-ขอความชัดเจนเรื่องอัตราค่าปรับ...ปรับจนหมดตูดแบบนี้ไม่ไหวและหาก “ดื้อ” ไม่ยอมจ่ายจะเกิดอะไรขึ้น...ต่อภาษีทะเบียนรถคงต่อได้แต่ต่อใบขับขี่อาจมีปัญหา....กดดันชาวบ้านกันเข้าไปทั่นผู้มีอำนาจ !!??