MGR Online - แกนนำศิษย์ธรรมกายปลุกระดมขัด ม.44 มอบตัวดีเอสไอ เชื่อถังน้ำมันสกัด จนท.อาคารบุญรักษา นอกรั้ววัดมีพิรุธ จ่อเรียกเจ้าของพื้นที่ควบคุมพิเศษเข้าให้ปากคำ
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน (บก.ตชด.ภ.1) นายอัยย์ เพชรทอง พร้อมด้วยนายวุฒิสาร พนารี แกนนำลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย เดินทางเข้ามารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังฝ่าฝืนตามประกาศคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 มาตรา 44
นายอัยย์เปิดเผยก่อนเข้ารายงานตัวว่า ตนได้พานายวุฒิสารมาตามหมายเรียก ที่ดีเอสไอให้เข้ารายงานตัวภายในเวลา 14.00 น. ฐานขัดขวางมาตรา 44 หากเจ้าหน้าที่สั่งห้ามเคลื่อนไหวปลุกระดมก็ยินดีให้ความร่วมมือเพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการปลุกระดมภายในวัดพระธรรมกาย หรือทำผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่เป็นเพียงผู้ประสานงานของวัดเท่านั้น ส่วนจะปฏิเสธข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.มาตรา 44 หรือไม่นั้น เป็นการให้การในชั้นศาลซึ่งในวันที่ 22 มี.ค.นี้จะเข้ามอบตัวกับอัยการที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ยืนยันจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ด้านนายวุฒิสารกล่าวว่า หากเข้าพบเจ้าหน้าที่ในวันนี้แล้ว และเจ้าหน้าที่มีเงื่อนไขต่างๆ ให้ตนเองปฏิบัติตามก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ ยืนยันว่าตนเองมีหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเพียงเท่านั้น
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่ บก.ตชด.ภ.1 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า การที่ทางวัดชี้แจงประเด็นการขุดคูคลองบริเวณอาคารบุญรักษาและอ้างว่าถังน้ำมันที่นำมาตั้งไว้เป็นถังเปล่าที่ใช้เพื่อขึงเต็นท์นอนนั้นเป็นคำชี้แจงที่ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีทหารเข้าไปปฏิบัติการและควบคุมพื้นที่ การที่วัดอ้างว่ามีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายบุกรุกเข้าไปก็ไม่เป็นความจริง เพราะชัดเจนแล้วว่าเป็นทหาร ส่วนถังน้ำมันที่อ้างว่านำมาขึงเชือกผูกสแลนกันแดดนั้นก็รับฟังไม่ได้ เพราะถังน้ำมันมีความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร หากนำมาขึงจริงคาดว่าผู้ที่อยู่ภายในจะต้องนั่งตลอดเวลาหรืออาจตัวเตี้ยมาก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดบริเวณอาคารบุญรักษาจึงมีมวลชนและพระจำนวนมาก หากไม่มีสิ่งสำคัญก็คงไม่มีระบบป้องกันเข้มงวดขนาดนี้
“พื้นที่บริเวณอาคารบุญรักษา ที่อยู่นอกกำแพงวัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นของเอกชน วันนี้ที่ประชุมจึงมีมติทำหนังสือเรียกเจ้าของพื้นที่ดังกล่าวเข้ารายงานตัวเพื่อชี้แจงเหตุผลการให้บุคคลเข้าใช้พื้นที่เนื่องจากเป็นพื้นที่หวงห้าม แต่กลับยังมีการฝ่าฝืนคำสั่งสร้างสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงออกหนังสือเรียกผู้มีชื่อครอบครองรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในวัด เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีคำสั่งชัดเจนให้ออกนอกพื้นที่ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการจึงต้องเรียกชี้แจงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของวัดหรือไม่