หนุ่มใหญ่ยิงตัวดับคาวัดย่านบางเขน หนีปัญหารุมเร้า

MGR Online - ตร.บางเขน รับแจ้งเหตุหนุ่มใหญ่ยิงตัวตายภายในวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ย่านบางเขน จากการสอบถามญาติอาจเกิดความเครียดเรื่องปัญหาสุขภาพ และเพิ่งแยกทางกับแฟนสาว

วันนี้ (3 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.20 น. พ.ต.ต.สมพร สะตะ สว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุคนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จึงรุดตรวจสอบที่เกิดหตุพร้อม พ.ต.ท.ปรเมษฐ โพยนอก รอง ผกก.สส.สน.บางเขน พ.ต.ท.ธิติ พันธสวัสดิ์ สวป สน.บางเขน พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย สว.สส.สน.บางเขน ร.ต.อ.พรชัย ว่องประเสริฐการ รอง สว.สส.สน.บางเขน ร.ต.ท.เมธาสิทธิ์ มณีนิล รอง สว.สส.สน.บางเขน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพล และมูลนิธิกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง

ี่ที่เกิดเหตุอยู่ภายในวัดดังกล่าวบริเวณทางขึ้นศาลาพระปริยัติธรรมภาวนาภิธานุสรณ์ พบศพนายทวีศักดิ์ พวงสุวรรณ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256/255 ซอยวัชรพล 3 แยก 1 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อโปโลสีขาว-ดำ กางเกงยีนส์ขายาว ตรวจสอบตามร่างกายพบบาลแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขมับข้างขวาทะลุซ้าย 1 แผล นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ข้างลำตัวด้านขวาพบกระเป๋าสะพายสีดำ และบริเวณปลายเท้าพบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามนายปัจจัย รัตนติวสร้อย อายุ 55 ปี ผู้พบศพคนแรกกล่าวว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ตนได้ซื้ออาหารเพลเลี้ยงเณรในวัด พบผู้ตายนั่งคุยโทรศัพท์อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นขณะที่ตนกำลังถวายเพลได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงเดินไปดูและพบว่าผู้ตายนอนแน่นิ่งไปแล้ว

ด้าน พ.ต.ท.เสน่ห์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าสะพายสีดำของผู้เสียชีวิตพบเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกับทางญาติและบุคคลใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อไปตามเบอร์ดังกล่าว จากการสอบถามญาติ ทราบว่าผู้เสียชีวิตเคยเป็นครูที่ ร.ร.สิริเทพ ก่อนจะลาออกมาเป็นพนักงานบริษัทเกี่ยวกับอะลูมิเนียมย่านลำลูกกา และพักอยู่ที่ กทม. เมื่อ 2 ปีที่แล้วผู้ตายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างแรงทำให้สมองได้รับความกระเทือนและมีการรักษาตัวมาตลอดจนเป็นปกติ แต่ผู้ตายมักบ่นว่าร่างกายตนเองไม่ปกติเจ็บตามตัวตลอดเวลา ล่าสุดผู้ตายมีปัญหากับแฟนสาวที่อยู่ จ.ลำพูน จึงอาจเกิดความเครียดก่อนตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และติดต่อให้ญาติเดินทางมารับศพพร้อมทั้งสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป