MGR Online - ราชทัณฑ์แจงเรือนจำของไทยได้มาตรฐานสากล โต้ข้อกล่าวหาสหพันธ์เพื่อสิทธิมนุษยชนสากล (FIDH) ละเมิดหลักสิทธิฯ ผู้ต้องขัง
วันนี้ (2 มี.ค.) กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงข้อเท็จจริงกรณีองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนสากลกล่าวอ้างว่า การจัดการภายในเรือนจำของไทยไม่ได้มาตรฐานสากล จึงขอเรียนชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่สหพันธ์เพื่อสิทธิมนุษยชนสากล (FIDH) กล่าวอ้างว่า การบริหารจัดการภายในเรือนจำของไทยไม่ได้มาตรฐานสากล และมีการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังมีปัญหาขาดแคลนผู้คุม และนักโทษล้นคุก โดยขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
ประเด็นเกี่ยวกับการกล่าวอ้างว่าการจัดการเรือนจำไทยไม่เป็นไปตามาตรฐานสากลนั้น กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า ได้ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังไทยและต่างชาติตามหลักการสากลทุกประการ ทั้งนี้ การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์เป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐานขั้นต่ำในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังแห่งองค์การสหประชาชาติ (The Mandela Rules) ข้อกำหนดกรุงเทพ (The Bangkok Rules) ไม่ว่าจะเป็นความด้านเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง, การรักษาพยาบาล, การให้การศึกษา และฝึกวิชาชีพ เป็นต้น
ประเด็นกรณีกล่าวหาว่ามีการทรมานและละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนนั้น ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ และระเบียบที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการเรือนจำ มิได้อนุญาตให้มีการทรมานผู้ต้องขัง โดยการลงโทษผู้ต้องขังจะเป็นการลงโทษทางวินัย ได้แก่ ภาคทัณฑ์, งดการเลื่อนชั้น, ลดชั้น, ตัดการอนุญาตให้ได้รับการเยี่ยมหรือการติดต่อไม่เกินสามเดือน, ลดหรืองดประโยชน์และรางวัล, ขังเดี่ยวไม่เกินหนึ่งเดือน, ตัดจำนวนวันที่ได้รับการลดวันต้องโทษ
สำหรับกรณีการใช้เครื่องพันธนาการ กรมราชทัณฑ์จะใช้เครื่องพันธนาการเฉพาะกรณี ในการนำตัวผู้ต้องขังไปศาลและการขนย้ายผู้ต้องขังจากเรือนจำหนึ่งไปยังอีกเรือนจำหนึ่งเท่านั้น โดยเครื่องพันธนาการที่ใช้ คือ กุญแจมือและกุญแจเท้าเท่านั้น โดยที่ขนาดและรูปแบบของกุญแจมือ และกุญแจเท้าก็เป็นรูปแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและใช้ทั่วไปในประเทศแถบยุโรปและอเมริกา
กรณีกล่าวหาว่ามีการทุบตีผู้ต้องขังด้วยไม้กระบอง ขอเรียนว่า กระบองเป็นอาวุธของเจ้าพนักงานในการปฏิบัติงาน แต่การใช้กระบองจะสามารถใช้ได้เฉพาะกรณีการระงับเหตุหรือป้องกันตัวเท่านั้นและประเด็นเกี่ยวกับสภาพความแออัดในเรือนจำไทย ขอเรียนว่ามีต้นเหตุจากปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน จะพบว่ามีผู้ต้องขังคดียาเสพติดถูกคุมขังในเรือนจำประมาณ ร้อยละ 70 ของผู้ต้องขังทั้งหมด ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหานี้ รัฐบาลได้กำหนดให้มีการแก้ไขกฎหมายยาเสพติด โดยให้มีการนำผู้เสพออกไปบำบัดรักษาให้มากขึ้น พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการพิจารณาและการกำหนดโทษความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดโดยเฉพาะผู้จำหน่ายรายย่อยให้เหมาะสม ซึ่งคาดว่าเมื่อกฎหมายใหม่ใช้บังคับแล้ว จำนวนผู้ต้องขังน่าจะลดลง จึงเรียนมาเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน