ช่วยเหลือผู้ต้องขังคดียาเสพติด กรมคุ้มครองสิทธิฯร้องศาลชั้นต้นกับที่พิพากษา

 
MGR Online - กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพช่วยเหลือผู้ต้องขังคดีค้ายาเสพติด ในการยื่นคำร้องขอศาลชั้นต้น กับที่พิพากษาคดี

วันนี้ (28 ก.พ.) น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า ตามที่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2560 ได้มีการประกาศและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2560 โดยบัญญัติตามมาตรา 9 ในกรณีที่ศาลพิพากลงโทษผู้กระทำความผิดตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และคดีที่สุดแล้ว ถ้าผู้กระทำความผิดยังไม่ได้รับโทษ หรือกำลังรับโทษอยู่ เมื่อปรากฏแก่ศาลหรือเมื่อผู้กระทำความผิด ผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้นั้น ผู้อนุบาลของผู้นั้นหรือพนักงานอัยการร้อง ขอให้ศาลชั้นต้นที่พิพากษาคดีนั้นมีอำนาจ กำหนดใหม่ตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ

พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติในการที่ศาลจะกำหนดโทษใหม่นี้ ให้ศาลมีอำนาจไต่สวน ผู้ที่เกี่ยวข้องตามที่เห็นว่าจำเป็นถ้าปรากฏว่า ผู้กระทำความผิดรับโทษมาบ้างแล้ว และศาลเห็นเป็นการสมควรศาลจะรอการลงโทษที่เหลืออยู่หรือจะปล่อยผู้กระทำความผิดไปก็ได้นั้น

ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าว นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีนโยบายที่สำคัญให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ต้องขัง โดยมอบหมายให้กรมราชทัณฑ์ ดำเนินการสำรวจผู้ต้องขังที่เข้าหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว และมอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพดำเนินการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ต้องขังที่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้จัดทำแบบคำร้องขอต่อศาลยุติธรรม และได้ขอความร่วมมือให้กรมราชทัณฑ์ แจ้งเรือนจำและติดตามสถานการณ์ทุกแห่งแล้วและได้ทำหนังสือถึงสำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศมอบหมายให้ที่ปรึกษากฎหมายและพนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รวมทั้งบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่ประจำอยู่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการช่วยเหลือผู้ต้องขังค้ายาเสพติดที่เข้าหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยให้รวบรวมคำร้องขอเสนอต่ออัยการจังหวัดเพื่อดำเนินการตรวจสอบและเสนอศาลชั้นต้นที่ปรึกษาคดีนั้นต่อไป