นายกฯลุงตู่ เด้งรับเสียงสะท้อนของประชาชน - ขีดเส้นตายให้ สตช. เสนอแนวทางปฏิรูปตำรวจอีกครั้งภายใน 60 วัน / สุดพิลึกตำรวจดี 0.01% คดี “ส่วยนาตารี” ระดับนายพล - นายพัน “รอดหมด” เหลือปลาซิว - ปลาสร้อย “โยนบาป” ชั้นประทวน 4 คน
อยู่ ให้มีศักดิ์ศรี ดี ให้มีคุณค่า บ้า ให้มีเหตุผล ตาย ให้มีคนจำ...สวัสดีครับท่านผู้อ่านมิตรรักแฟนเพลงที่เคารพรัก พบกับกระพ้มนาย “บิ๊กเกรียน” แห่งค่ายท่าพระอาทิตย์อีกครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา “ยุทธการ - เขย่าสีกากี” ข่าวแรกคือ บรรดาตำรวจดี 99.99% ที่รอดบ่วงกรรมกรณี “ส่วยนาตารี” อย่างขัดหูขัดตาบรรดาผู้ชมนอกเวทีอย่างที่สุด...ผลสรุปออกมาเกือบเดือนแล้ว “ดอกแรก” คือ พล.ต.ต.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 ผู้รับผิดชอบพื้นที่ “นาตารี - อบนวด” หรือซ่องกลางกรุงสุดอื้อฉาวสร้างความขายขี้หน้าวงการตำรวจไทยมากที่สุด “พ้นผิด - ไร้มลทิน”แต่ให้ย้ายไปเป็น ผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน “ลดเกรด” ลงนิดหน่อย....อื่มมม!!?? บัญชีรายชื่อหน่วยงาน “รับส่วยน้ำกาม” มีถึง 4 กองบัญชาการ เริ่มกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
00000....อย่าว่าแต่ค้านสายตาประชาชี แม้แต่สังคมตำรวจเองประเด็น “ปกป้องเจ้านาย - โยนบาปลูกน้อง” กลายเป็นสังคมซุบซิบ....ไม่รู้เข้าหู “ผู้ปกครองประเทศ - ผู้มีอำนาจ” บ้างหรือเปล่า...ผู้น้อยคร่ำครวญความเป็นธรรมไม่มีในโลก (สีกากี) นี้ เลือกเฉพาะคนมาฆ่าโดยตรง...กลุ่ม 0.01% ไม่โดน ม.44 คือ 1. ผกก. 1 ป. ผกก. 2 ป.(ในขณะนั้น) ผกก.191 ผกก.ท่องเที่ยว ผกก.ดส. รอง ผบก.คุมสืบสวน รอง ผบก.คุม ป. ผกก.สส.สน. รอง ผกก.สส.ห้วยขวาง ส่วนประเภทโดน ม.44 แล้วยุติ คือ ผบก.น.1 รอง ผบก.น.1 ผกก.ปคม. ผกก.ตม. ผกก.ส. ขณะที่ตำรวจชั้นประทวนที่ถูกดำเนินคดีเพราะมีพยานหลักฐานเข้าไปรับส่วย “นาตารี” 4 คน คือ กองปราบฯ - 191 - ตม. และ สส.บช.น.
00000.....5555555 “บิ๊กเกรียน” หัวร่อจนฟันรวน....สถานอบ-นวด (นาบ) นาตารี คือ ซ่องขนาดใหญ่ผุดอยู่กลางกรุง ลำพังถ้าบรรดา “เจ้านาย” บ่ฮู้บ่เห็นด้วยมันจะเปิดเย้ยฟ้าท้าความหื่นบรรดาเสือป่าแมวเซากันได้อย่างไร...และหน่วยงานที่ไปจับ คือ ชุดของกรมการปกครอง ผสมทีมกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่มี “ตำหนวด” ยุครุก รับ จบ เร็ว แม้แต่พระหน่อเดียว.....เขาจึงแกล้งถามกันว่า “มีตำรวจไทยไว้ทำอะไร”....บาปที่ก่อ พฤติการณ์ที่ทำ “บิ๊กเกรียน” ไม่อาจเห็นใจ แต่จะไม่สมน้ำหน้าพี่ดาบ น้องจ่า หรือใครคนไหนที่สวมบท “แม่บ้าน” ให้กับหน่วยงาน....กรณี “ส่วยนาตารี” พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายังไง “ฤาษี” ก็รอด ส่วน “ลิง” ตายห่านหมด...หรือหวังให้ท่านปลุกชีพก็คงยากแสนยาก....เจ้านาย “สั่งตาย” ลูกน้องเพื่อให้ตัวเองรอดอย่าลืม “ลงขัน” ให้ไปประกอบสัมมาอาชีพอื่นด้วยนะ...พี่ดาบ น้องจ่า ต่อไปจะทำกันอย่างไร อนาคตมืดมัวซะแล้ว “อาญาฯ - วินัย” ปลดออก ให้ออก ไล่ออก ว่ากันตามถนัด...แต่ก็นั่นแหละ “เจ้านาย” คงช่วยกันในนาทีสุดท้ายเพราะหากลูกน้องมันโวยก็ยุ่ง!!??
00000....อ้อ...อีกเรื่องงามหน้า....“ซ่องโอเกะ - ภูเรือ” วันก่อนฝ่ายปกครองบุกถล่มถึงถิ่นแดนท่องเที่ยว อ.ภูเรือ จ.เลย อยู่ห่างไกลกรุงเทพมหานคร 5 - 600 กม. แต่ “กลิ่นค้ามนุษย์” ยังเข้าจมูก พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ รรท.ผอ.ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์...ไฉนตำรวจกองบัญชาการภาค 4 ทั้งท้องที่ สภ.อ.ภูเรือ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย สืบจังหวัด สืบภาค..หูหนวก - ตาบอด เพราะอะไร....ตำรวจท้องที่ ตำรวจ ปคม. สารพัดหน่วยงานทำไมไม่รู้ - ไม่เห็น ใช่แค่ “ซ่องโอเกะ - ภูเรือ” ยังมี “ซ่องโอเกะ - ท่าลี่” และ “ซ่องโกะ - เชียงคาน” หลาย 10 สำนักค้าเนื้อสดเด็กหญิงจากเพื่อนบ้าน...บางรายแฝงนวดแผนโบราณ - เด็กเสิร์ฟ และถึงขนาด ”โกอินเตอร์” เป็นขบวนการ “ค้าหอย” ข้ามชาติก็ยังมี......นี่ไงคนจังหวัดเลย เขาจึงฝากถาม ....มีตำรวจภูเรือ มีตำรวจจังหวัดเลย มีตำรวจภาค 4 และมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ..ไว้ทำไม !!??
00000.....บางครั้ง “ศักดิ์ศรี” ก็เป็นตัวทำลายหากท่านผู้ยิ่งใหญ่ยังทำตัวเป็น “น้ำล้นแก้ว” หลังเสวนา “ทิ่ม - ตำ - ตำหนวดไทย”...“มีตำรวจไทยไว้ทำอะไร” อาจารย์สังศิต พิริยะรังสรรค์ นักวิชาการคนดัง และ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร “หัวหอก” ปฏิรูปตำรวจ ก็เจอ “พิษ - ศักดิ์ศรี” โดยคำสั่งของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เจ้าของความเชื่อตำรวจดีมี 99.99% ส่วนตำรวจ “ติ๋งต๊อง” มี 0.01% (อันนี้กระพ้มว่าเอง)...5555....ณ บัดนาว ยังไม่มีอะไรในกอไผ่..คาดว่า ทั้ง “แป๊ะใหญ่ และ แป๊ะเล็ก” คงจับยามสามตาดูความคุ้มความไม่คุ้มก็เป็นได้...แต่เอาเถอะจะฟ้องก็ฟ้อง....จะจับก็จับ...“บิ๊กเกรียน” ในฐานะคนคุ้นเคย - เก่าแก่ ไม่มีอะไรอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง ฝากข้อคิดให้ผู้หลัก - ผู้ใหญ่ ทั้ง “คนคุม” สตช. และ “คนถูกคุม”...เลิกเสียทีเรื่อง “กดหัว -ข่มขู่”....ถึงตรงนี้ไม่มีใครกลัวใครแล้วท่าน !!??
00000...หมายถึง...ถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้องนะฮะ... อย่าคิดเป็นอย่างอื่น เพราะใครจะกล้าท้าทายคนมีอำนาจ คนมีปืน....คือ ถ้าสุจริตใจ ยืนอยู่บนความถูกต้องและผลประโยชน์ของส่วนรวม “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ไม่มีทางชนะ !!?? ....กระพ้มเชื่ออย่างนั้นจริงๆ...เหตุผลโลกมันรุดหน้าไปไกล (โลด) แล้ว...วันหนึ่งเสียงเรียกร้อง เสียงขอให้เกิดการปฏิรูปจะดังกระหึ่มขึ้นเรื่อยๆ...วันนี้แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จะยังเงื้อๆ ง่าๆ ไม่ “หักดิบ” แต่การให้นิติบริกร “วิษณุ เครืองาม” ไปร่างกฎ - กำหนดกติกาการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” เพื่อป้องการการซื้อ - ขายเก้าอี้....จะปฏิเสธกันอย่างไรว่าที่ผ่านมา...ไม่มี๊..ไม่มี..เซ็งลี้ตำแหน่ง
00000.....วันก่อนมีราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 7/2560 เรื่อง ปรับปรุงระบบพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ....หลายสำนักนำเสนอกันไปแล้วสรุปรายละเอียดต่างๆ ของประกาศฉบับนี้ เชื่อว่า ขบวนการวิ่งเต้น ซื้อขายตำแหน่ง และระบบอุปถัมภ์ในแวดวงสีกากีมีจริง แถมยังเป็นตัวทำลายระบบคุณธรรมจนป่นปี้.....“บิ๊กเกรียน” นักข่าวเก่าและแก่ สมองไม่แล่น ต้องหยิบมานอนอ่านทั้งคืน...“ฟันธง” ว่า ไงก็ดีกว่าเก่าแม้อาจมองได้ว่าตลาดซื้อขายโค - กระบือ หลุดจากตลาดกลางมาเป็นตลาดภูธร...แต่อย่างน้อย “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ท่านได้ยินเสียงเรียก - ร้องจากนักวิชาการและประชาชน...ข้อเสนอต่อไปควรกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่าหลักการณ์แต่งตั้งข้าราชการตำรวจจะต้อง 1. หลักอาวุโส 2. สอบเพื่อทบทวนความรู้ความสามารถ 3. ระบบ “ช้างเผือก” ดาวรุ่ง - พุ่งแรง จะต้องมีการนำเสนออย่างเป็นรูปธรรมมิใช่ปล่อยให้ข้ามหัวคนอื่น 2 - 300 คน....สนใจแต่ข้อ 4. ให้ สตช. ศึกษาแนวทางปฏิรูปตำรวจทั้งระบบ - จัดตั้งคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม - จัดระบบและอำนวยงานสอบสวนคดีอาญาให้เกิดประสิทธิภาพ และเป็นธรรมสูงสุด - นำเทคโนโลยีมาใช้ในกิจการตำรวจ....น่าจะหมายความว่าไอ้ที่ผ่านๆ มา การทำหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ของ ก.ตร. มันล้มเหลว....การสอบสวนของตำรวจยังไม่โปร่งใสและข้อเสนอให้ใช้การบันทึกภาพ - เสียง โดยกล้องวิดีโอ ท่านหัวหน้า คสช. ก็เห็นด้วย...เอ้า..ขบวนการหัวก้าวหน้า...ขบวนการสนับสนุนปฏิรูปตำรวจไทยอย่าได้ท้อ...ลุกมาสู้กันต่อ..ตบท้ายคำสั่งข้อ 4. ให้ สตช. รายงาน “นายกฯลุงตู่” ภายใน 60 วัน...หมายฝามว่าการปฏิรูปฉบับ “ล้างส้วม” ระยะสั้น 1 - 5 ปี ระยะยาว 10 - 20 ปีที่ “บิ๊กตำรวจ” เสนอไปก่อนหน้านั้น กลายเป็นเจ้าชาย “แห้ว - โหระพา” ไปซะแล้ว 5555...
00000.....ดาหน้าออกมาข่ม มาขู่ หรือ “เข็นไดโนเสาร์ - สีกากี” ออกมาสู้ตามรูปแบบเก่าๆ...“บ่องตง”...ชาวบ้านเขาเหม็นขี้ฟัน...และยิ่งโพนทะนา “ความเท็จ” กรณีลอบวางระเบิดหมายฆ่า พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร ขณะดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อปี 2548 หาก “เจ้าตัว” เขาหมดความอดทนออกมาแฉกลับบ้าง..กระพ้มเป็นห่วงว่าองค์กรตำรวจจะยิ่งป่นเป็นแป้ง...เพราะมันยอกมันย้อน...คนของรัฐถูกวายร้ายวางระเบิดร้ายแรงหมายปลิดชีวิตถึงบ้านพักราชการ “ตำหนวดใหญ่” ผู้บังคับบัญชาที่ “เหม็นหน้า” เพราะความ “เถรตรง” ของเขากลับ “บิดพลิ้ว - กลั่นแกล้ง” กลายเป็นสร้างสถานการณ์บ้าง ชู้สาวบ้าง ....ทำขนาดจัดการกับพยาน (หญิง) ปากสำคัญกลายมาเป็นผู้ต้องหาต้อง “หนีตาย” หัวซุกหัวซุน...ด้วยความเป็นนักสู้ เป็นตำรวจ “น้ำดี” เขาต้องยืนซดกับความไม่เป็นธรรมมาตั้งแต่ปี 2548 มีการกล่าวโทษตำรวจ 13 นาย 1 ในนั้นคือพล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวรวมอยู่ด้วย และพนักงานอัยการ ฐานความผิด 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ....วันนี้เรื่องยังคาอยู่ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน และ ป.ป.ช. นาน 8 - 9 ปี....ถามว่าทำไมถึง “หมก” ทำไมถึง “ดอง”..คำตอบก็คือไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร เพราะเรื่องนี้อาจจะเน่า-เหม็น แย่ยิ่งกว่าคดี “ครูจอมทรัพย์”
00000.....ตำรวจดีมีมาก...ตำรวจเลวมีแค่ 0.01% “บิ๊กเกรียน” อยากเสนอกฎหมายตรวจสอบฐานะ-ความร่ำรวยของนายตำรวจ....ก่อนรับราชการมีอะไรบ้าง...หลังรับราชการหรือเกษียณอายุไปแล้วมีอะไรบ้าง....หลายคนมีบ้านใหญ่โต 3 - 4 หลัง มีรถเก๋ง รถตู้ รถกระบะ 4 - 5 คัน...มีเมียมากกว่า 1 มีพระเครื่องราคาแพง มีโน่นนี่นั่น...มีบ้านตากอากาศโดยเฉพาะพื้นที่ภาค 3 - 5 - 6 และ 7 “ควัก 30%” ที่เหลือ “ไถ” โคราช เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ เมืองกาญจน์ สวนผึ้งราชบุรี เป็นต้น...ถามว่า ท่านสร้างความร่ำรวยมาจากอะไร...ก็รู้ทั้งรู้ว่าตำรวจเลว 0.01% มันโกง - กินกันกระฉูด แต่ทำไมไม่เคยเห็นตำรวจถูกจับเข้าคุก ถูกยึดทรัพย์เพราะรวยผิดปกติ....เฮ้ออ!!??...อย่าเพิ่งสะดุ้ง...ไม่มีอะไรในกอไผ่ร็อก...คงปล่อยให้สุมหัวกัน “ปากมัน” ต่อไป
00000....ตำรวจไทยมีไว้เพื่ออะไร...คำตอบง่ายๆ ก็เพื่อรักษากฎหมาย...บังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ....แต่ทั่นทำมั๊ย !!?? ...คำตอบคือ “ทำมั่ง - ไม่ทำมั่ง” หรือแสบๆ คันๆ คือ “เลือกทำ”...บ่อน...ซ่อง...กิจการสีเทาทั้งหลายแหล่เดี๋ยวนี้ใครจับล่ะถ้าไม่ใช่ทหาร - ฝ่ายปกครอง...คำตอบมันมีให้เห็นอยู่แต่ก็เลี่ยงบาลี...เอาสีข้างเข้าถูก....กลายเป็นหาเหตุ “ยกศักดิ์ศรี” มาโวยวาย....ว่าไปแล้วความน่ากลัวของศักดิ์ศรีถ้าเอามานำข้อเท็จจริง เอามานำตัวคนมีอำนาจมันจะไปเหลืออะไร...ท่านมั่นใจว่ากูระดับนี้แล้ว...กูเก่งกว่า...กูรู้มากกว่า...ใครจะพูดอะไร บอกอะไรกลายเป็นหาเรื่อง - ทำร้าย...ไม่สนใจแม้ข้อเสนอหรือความคิดเห็นดีๆ...“บิ๊กเกรียน” นักข่าวเก่าและแก่ ผ่านโรค - โลกมาเยอะจนไม่อยากได้ - ใคร่ดีอะไรอีกแล้ว นอกจากความยุติธรรมในสังคมขอนั่งฉีกปฏิทิน ไปเรื่อยๆ รอดูวันเป็นไป
00000.....ตบท้าย “ควันหลง” ปฏิบัติการตามล่าธัมมชโย แห่งวัดธรรมกาย...เริ่มยกแรกตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา...เจอไม่เจอเดี๋ยวได้รู้ แต่ที่ “เจอ” แล้วก็คือความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับเบี้ยเลี้ยงตำรวจ 3,500 นาย ที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่....วันละ 440 บาท ขาดตัว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควักกระเป๋าจ่ายให้วันละ 1,540,000 บาท แต่ที่กลายเป็นเรื่องก็เพราะค่าอาหารกล่อง 1 มื้อ 1 กล่อง 3 มื้อ 3 กล่อง ราคากล่องละ 80 บาท เปิดดูต๊กกะจัย มีกับ 1 อย่างพร้อมน้ำปลา 1 ซอง...อะไรมันจะแพงขนาดนั้น....แทนที่เมื่อทำข้าวกล่องจำนวนมากๆ จะได้ลดต้นทุนแต่ดันแพงหูฉี่...ค่าตามล่าพระ 440 บาท หักค่าอาหารกล่อง 240 เหลือติดตัว 200 บาท...หมายความว่า แบ่งเป็นค่าอาหารกล่องวันละ 840,000 บาททุกวัน...หากราคาปกติคือ 40 - 50 บาท (กับข้าว 2 อย่าง) มีส่วนต่างถึง 30 - 40 บาทต่อกล่อง...ขี้หมูขี้หมาต้องมีเข้าปาก “ตัวเงินตัวทอง” อย่างน้อยวันละ 3 แสนบาท.....จึงเกิดคำถามว่าใครคือผู้รับผิดชอบการจัดทำหรือส่งเสบียงอาหาร....ราคามันเว่อร์ไปมั้ย มีเหตุผลอะไร มันพิเศษตรงไหนหรือมีรายการ “ตำรวจกินเนื้อตำรวจ” เรื่องแบบนี้ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.อย่าปล่อยให้ผ่านไป....กรุณาให้ผู้รับผิดชอบชี้แจง หากตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตก็จัดการไอ้พวกสูบเลือดสูบเนื้อตำรวจแบบจริงๆ จังๆ กันซักที....เออ...แปลกดีนะ...ไอ้พวกสารเลว 0.01 % เนี่ย...มันมีอยู่ทุกซอกทุกเหลือบของแวดวงสีกากีแบบไม่มีเว้น...แม้ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะรีบออกมาปฏิเสธ แต่สังคมยัง “ข้องใจ” ทางที่ถูกรีบหาตัว “ตำรวจกินเนื้อตำรวจ” มาให้ดูจะดีกว่า...หรือแจกแจงให้ชัด “ข้าวกล่องตำรวจ” มันแพงกว่า “ข้าวกล่องชาว” บ้านเพราะอะไร!!??