MGR Online - “พระสนิทวงศ์” ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย วอนเห็นใจยกเลิก ม.44 อ้างกลุ่มศิษยานุศิษย์ ประชาชนเดือดร้อน อาหารขาดแคลน เกณฑ์เด็กชูป้ายกดดันเจ้าหน้าที่
วันนี้ (21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่รัฐให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการรุนแรงกับพระและลูกศิษย์ที่อยู่ภายในวัดว่า ทางวัดมีความเป็นห่วงและขอความเมตตาให้ทุกท่านเจรจากันด้วยสันติวิธีซึ่งการปฏิบัติงานของภาครัฐ 3 วันที่ผ่านมาญาติโยมเข้าใจว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระธัมมชโย
กระทั่งวันที่ 19 ก.พ. ดีเอสไอได้ประกาศให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกวัดภายในเวลา 13.00 น. ทางญาติโยมเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของพระธัมมชโย แต่เป็นเรื่องของพระพุทธศาสนา จึงมีความตกใจและเป็นห่วงเรื่องนี้จึงเดินทางเข้ามาภายในวัดเอง ทางวัดขอความเห็นใจกับเจ้าหน้าที่เพราะมีความเดือดร้อนมาก อาหารก็ขาดแคลนไม่สามารถนำเข้ามาได้ ทางญาติโยมก็ไม่ยอมกลับออกจากวัดเพราะเป็นห่วงพุทธศาสนา
ที่สำคัญมีเหตุการณ์ปะทะเกิดขึ้น ที่ทางภาครัฐอ้างว่าเป็นการกระทบกระทั่งไม่มีเหตุรุนแรงและมีเพียงแผลถลอกนั้นทางวัดได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่ามีโยมอายุ 60 ปี ถูกเหยียบซี่โครงและไหปลาร้าหัก มีเลือดออกจากหูซึ่งทางการแพทย์สันนิษฐานว่ามีการกระทบกระเทือนภายในสมอง ทางโรงพยาบาลก็ไม่กล้ารับตัวไว้รักษาเนื่องจากกังวลเรื่องมาตรา 44 ขณะนี้มีโรงพยาบาลหนึ่งรับตัวไว้อยู่ระหว่างรอการผ่าตัด จึงยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หรือแจ้งความใดๆ นอกจากนี้ยังมีโยมอีกคนถูกกระบองไฟฟ้าช็อต และมีพระอีกหลายรูปที่ถูกทำร้าย
พระสนิทวงศ์กล่าวอีกว่า ทางวัดไม่โทษเจ้าหน้าที่เพราะเหตุชุลมุนจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทางวัดมีความห่วงใยและกังวลมาก ไทยเป็นเมืองพุทธ ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรงกับพุทธศาสนา ถ้าเป็นไปได้อยากให้ยกเลิกมาตรา 44 และไม่ใช้ความรุนแรง เพราะพระธัมมชโยไม่ใช่อาชญากร และทางวัดได้ยกพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่แล้ว จะมาตรวจค้นเมื่อไหร่ก็ได้ เข้าใจว่ารัฐบาลต้องดูแลให้อยู่ภายในมาตรฐานเดียวกัน แต่การที่ดีเอสไอใช้อำนาจเต็มตรวจค้นไปแล้ว 3 วันยังไม่พบตัวพระธัมมชโย ถือเป็นความผิดของหลวงพี่หรือ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. บริเวณถนนเลียบคลองแอนด์ ฝั่งประตู 5 วัดพระธรรมกาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีกลุ่มศิษยานุศิษย์ที่เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านแก้วมณีร่วม 50 คน ทั้งเด็ก ผู้หญิง และพ่อค้าแม่ค้า ต่างมาชูป้ายเพื่อเรียกร้องขอให้ยกเลิก ม.44 เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถเดินทางสัญจรไปโรงเรียนและทำงานได้อย่างปกติ นอกจากนี้ยังมีคนป่วยที่ต้องเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้านนอกอีกด้วย
