MGR Online - ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว ล็อก 7 ต่างด้าวชาวเนปาลลักลอบเข้าเมืองทาง จ.ตาก คาห้างสรรพสินค้าดังย่านปทุมวัน แฝงทำงานผิดกฎหมาย ซ้ำพบสวมสิทธิบัตรอนุญาตทำงานสีชมพู ที่อนุญาตให้เฉพาะ 3 สัญชาติ
วันนี้ (15 ก.พ.) พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบก.สส.สตม.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.หญิง วิลาวัณย์ ปิตาวรานนท์ พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.ท.เชฏฐพร วรผลึก รรท.ผกก.1 บก.สส.สตม. และ พ.ต.ท.บันดล วงศ์ระรื่น รอง ผกก.1 บก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา รวม 7 ราย ในข้อหาเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวทำงานไม่ตรงตามประเภทงาน หรือลักษณะงานและนายจ้าง ณ ท้องที่ตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต และเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านเขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ภัคพงศ์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก บก.สส.สตม. ได้รับการร้องเรียนว่า พบบุคคลต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และผิดเงื่อนไขตามกฎหมาย จึงส่งฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.สส.สตม. นำโดย พ.ต.ท.ธวัชชัย นรินรัตน์ พ.ต.ท.วุฒิชาติ บุตรศรีภูมิ สว.กก.1 บก.สส.สตม. ร.ต.อ.วิจารย์ แก้ววิเศษ ร.ต.อ.จิรวัฒน์ บุรีงาม ร.ต.อ.รวีศักดิ์ สุริยภักดิ์ ร.ต.ท.เสน่ห์ ปันกาโล และ ร.ต.ท.สิทธิชัย คล้ายขยาย รอง สว.กก.1 บก.สส.สตม. พร้อมกำลังเข้าไปสืบสวน จนพบว่ามีบุคคลต่างด้าวกระทำผิดจริงตามที่ได้รับแจ้ง จึงเข้าจับกุม
จากการสอบสวนทราบว่า เป็นบุคคลต่างด้าวทั้งหมด ใช้หนังสือเดินทางประเภทนักท่องเที่ยว แต่ลักลอบเข้ามาทำงานผิดประเภท และบางรายให้การยอมรับว่าเป็นชาวเนปาล เข้ามาในประเทศไทยผ่านเมียนมา เข้ามาทางด้าน จ.ตาก โดยใช้หนังสือเดินทางนักท่องเที่ยว จากนั้นได้แฝงตัวเข้าไปขอใบอนุญาตทำงานบัตรสีชมพู ที่ปกติจะออกให้เฉพาะบุคคลต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ ลาว เมียนมา และกัมพูชา เท่านั้น จากนั้นได้เข้ามาทำงานขายสินค้าให้กับคนชาติเดียวกันที่บริเวณดังกล่าว โดย สตม. พบว่า มีการลักลอบกระทำผิดลักษณะดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งจะได้สืบสวนจับกุมต่อไป เพราะถือว่าผิดกฎหมายและเข้ามาแย่งอาชีพคนไทย
พ.ต.อ.ภัคพงศ์ กล่าวด้วยว่า การจับกุมดังกล่าวได้เบาะแสจากประชาชนที่แจ้งเข้ามาทางกลุ่มไลน์ “ตาสับปะรดแจ้งข่าวอาชญากรรม” ถือเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะต่อความมั่นคงของประเทศ และทาง พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ชูฉัตร เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแจ้งเบาะแส ดังนั้น บก.สส.สตม. จึงขอเชิญชวนประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสทางสายด่วน สตม. 1178 หรือร่วมเป็นสมาชิกแจ้งข่าวทางกลุ่มไลน์ บก.สส.สตม. ได้ที่กลุ่มไลน์ตาสับปะรดแจ้งข่าวอาชญากรรม ไอดี pak 191919 ได้ทันที เพื่อ บก.สส.สตม. จะได้เก็บข้อมูลไว้เพื่อทำการวิเคราะห์สืบสวนหาข่าว และสืบสวนเพื่อนำไปสู่การจับกุมเป้าหมายผู้กระทำความผิด เพื่อช่วยกันปกป้องความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทยที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันต่อไป
