MGR Online - ตำรวจ 191 แถลงผลลงพื้นที่รอบ กทม. และปริมณฑล 29 จุด รวบผู้ต้องหา 10 ราย อาวุธปืน 10 กระบอก พร้อมจับกุมหนุ่มขายปืนผ่านเฟซบุ๊กและเจ้าพ่อเงินกู้โหด ยึด จยย.กว่า 22 คัน รถเก๋งอีก 3 คัน พร้อมขยายผลเอี่ยวแก๊งลักรถขายเพื่อนบ้าน
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ลานจอดรถด้านหน้ากองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ รอง ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.พรพรหม จักษุรักษ์ รอง ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผกก.ศร. พ.ต.ท.คณิต กลิ่นศรีสุข รอง ผกก.กก.ต่อต้านการก่อการร้าย เจ้าหน้าที่สายตรวจ 1 สายตรวจ 2 และสายตรวจ 3 และเจ้าหน้าที่ ตร.บก.ทท. ร่วมกันแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ทั้งสิ้น 29 จุด
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจ บก.สปพ.ผสานกำลังตำรวจท่องเที่ยว และทหาร รวมทั้งสิ้น 194 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลมาฆบูชา และเทศกาลวาเลนไทน์ โดยทำการเข้าตรวจค้นจำนวน 29 จุดในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เบื้องต้นพบการกระทำความผิดจำนวน 8 จุด จับกุมผู้ต้องหา 10 ราย พร้อมของกลางประกอบด้วย ปืนวินกัน ดัดแปลงให้ใช้กับกระสุนจริง ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ปืนไทยประดิษฐ์ .22 (ปืนปากกา) จำนวน 1 กระบอก ปืนลูกซองสั้น ไทยประดิษฐ์เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก ปืนขนาด 7.56 จำนวน 1 กระบอก ปืนบีบีกัน .38 จำนวน 1 กระบอก ปืนดัดแปลงบีบีกัน .32 จำนวน 1 กระบอก ปืนไทยประดิษฐ์เบอร์ 20 จำนวน 1 กระบอก ปืนแบลงก์กัน จำนวน 1 กระบอก ปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ปืนไทยประดิษฐ์ .45 จำนวน 1 กระบอก รวมอาวุธปืนทั้งสิ้น 10 กระบอก, เครื่องกระสุนปืนรวม 275 นัด, โครงปืนพร้อมลำเลื่อนจำนวน 1 ชุด
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ในส่วนของการกวาดล้างตรวจยึดอาวุธปืนเป็นการขยายผลเพิ่มเติมจากการที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการกวาดล้างไป 13 ครั้ง ทลายเครือข่ายจำหน่ายอาวุธปืนของนายมนัส ศรศรีชัย กับนายปิยชัย เรืองสาท ผู้ต้องหาที่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ.จับกุมมาก่อนนี้ซึ่งมีพฤติกรรมจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางอินเตอร์เน็ต เบื้องต้นได้ทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าวได้ นอกจากนี้ยังได้เข้าตรวจค้นเป้าหมายหนึ่ง ซึ่งเป็นขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบได้ซึ่งพฤติกรรมของขบวนการนี้จะเปิดเฟสบุ๊กเพื่อรับจำนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อสัปดาห์ ถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด และจากการตรวจค้นตรวจยึดจักรยานยนต์จำนวน 22 คัน รถยนต์ 3 คัน
ส่วนการทลายเครือข่ายแก๊งเงินกู้นอกระบบนั้น ทาง บก.สปพ.ได้ประสานความร่วมมือกับสมาคมไฟแนนซ์ ซึ่งหลังจากนี้จะมีขยายผลเครือข่ายต่อไป อย่างไรก็ตาม จากแนวทางการสืบสวนยังไม่พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว มีความเชื่อมโยงไปยังเครื่องข่ายโจรกรรมรถ หรือว่านำรถไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ก็อยากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิด โดยผู้ให้กู้ไม่สามารถให้อัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานปล่อยดอกเบี้ยเกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนด โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท อีกทั้งผู้ที่นำรถที่ติดไฟแนนท์ไปจำนำ และผู้รับจะถือว่ามีความผิดรับของโจรด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ที่มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองจะมีความผิดฐาน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีให้ใช้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ในส่วนของแก๊งปล่อยเงินกู้จะมีความผิดฐานปล่อยดอกเบี้ยเกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนด ก่อนนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
