MGR Online - ผบช.น.สั่งตั้งกรรมการสืบสวนตำรวจกรณีไม่แจ้งเบาะแสกรณีเซลส์แมน ยกเป็นคดีตัวอย่าง เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ตลิ่งชั่น รวมถึงร้อยเวรที่ชันสูตรศพที่ รพ. อาจบกพร่องในหน้าที่ กลับไม่เอะใจว่าเป็นคนหายตามข่าวทั้งที่รูปพรรณตรงกัน ส่วนญาติยังคาใจปมเสพยา ชี้ผลนิติเวชจากเส้นผมสามารถบอกได้เสพยามานานแค่ไหน
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่ญาติของนายรัติภูมิ พิมใจใส เซลส์แมนหนุ่มที่หายตัวปริศนาก่อนเสียชีวติในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลศิริราชและทางญาติยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต โดยเฉพาะประเด็นว่ามีการถูกบังคับให้เสพยาเกินขนาดจนเสียชีวิตหรือไม่ ว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง และอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผล พร้อมเร่งขอผลตรวจพิสูจน์จากแพทย์นิติเวช และกองพิสูจน์หลักฐานว่านายรัติภูมิมีประวัติเสพยามานานแค่ไหนก่อนเสียชีวิตซึ่งสามารถตรวจได้จากเส้นผม ทั้งนี้ เพื่อทำให้ความจริงกระจ่างชัดโดยปราศจากข้อสงสัยว่าถูกใครทำให้เสียชีวิตหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คดีนี้นับเป็นคดีตัวอย่างเรื่องการตามหาคนหาย หรือถูกอุ้มตัวหาย เบื้องต้นพบว่าจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการขันนอต กำชับการปฏิบัติของตำรวจในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะการแจ้งข้อมูลการตรวจพบเหตุผิดปกติ หรือการชันสูตรพลิกศพ ที่อาจเกี่ยวข้องกับกรณีคนหายตัวหรือถูกอุ้มหาย
“กรณีนี้เป็นข่าวการตามหาตัวเซลส์แมนอย่างครึกโครม แต่เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ตลิ่งชัน ที่เข้าไประงับเหตุชายคลุ้มคลั่งในพื้นที่ซึ่งมีรูปพรรณตรงกับคนที่หายไป กลับไม่นึกถึงเป็นเรื่องผิดปกติ รวมถึงร้อยเวรที่ไปชันสูตรศพที่ รพ.ศิริราช ทั้งที่มีการสั่งกำชับให้ประสานตามโรงพยาลเพื่อหาตัวแล้ว ต้องรอจนมีพยานแจ้งเบาะแสจนตามหาตัวเจอ ได้สั่งให้ บก.น.7 ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้รายงานผลภายใน 3 วัน ว่ามีตำรวจนายใดปฏิบัติหน้าที่บกพร่องหรือไม่ โดยให้รายงานผลให้ทราบภายในวันเสาร์ นอกจากนี้ยังคาดโทษหากเกิดเหตุบกพร่องลักษณะนี้อีก ผู้เกี่ยวข้องจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก” พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าว