ตำรวจแถลงจับยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 2.6 ล้านเม็ด ไอซ์ 7 กก. พร้อม ยาเค - ยาอี อีกเพียบ ซุกบ้านย่านหนองจอก คนร้ายเป็นชายวัย 24 สารภาพรับส่งยาตามคำสั่งเสี่ย ทำมาแล้ว 2 ล็อต โดยรอบแรกได้ค่าจ้างมา 7 แสน นำมาลงทุนเตรียมเปิดร้านอาหาร แต่มาโดนจับได้เสียก่อน
วันที่ 9 ก.พ. เมื่อเวลา 20.30 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น. ร่วมกันแถลงการจับกุมตัว นายอานนท์ หรือ ต่อ ลาวเกษม อายุ 24 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2,671,400 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 7 กก. ยาเค 5 กก. และ ยาอี 34,000 เม็ด รถยนต์อีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน ผฉ 3922 อุดรธานี ฮอนด้าซิตี้ ทะเบียน 3 กช 8868 กทม. จักรยานยนต์ ฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 61/579 หมู่บ้านฟลอร่าวิลล์ ซอยสุวินทวงศ์ 44 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม.
พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายอานนท์ สารภาพว่า ก่อนหน้าที่จะมาทำงานนี้ เมื่อช่วงเดือน ธ.ค. ปี 2559 ตนได้ไปหาเพื่อนสมัยเรียนที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อนจึงถามว่าอยากทำงานไหม ถ้าอยากให้เอาเบอร์ติดต่อมา ตนจึงให้ไป ไม่กี่วันก็มีคนโทร.มา โดยใช้คำแทนตัวเองว่าเสี่ย โดยเสี่ยให้ตนหาสถานที่เปิดเป็นโกดังเก็บของ ตนจึงได้มาเช่าบ้านหลังดังกล่าวในราคา 19,000 บาทต่อเดือน จากนั้นเสี่ยได้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง ให้ตนไปรับของล็อตแรกที่ อ.เสนานิคม จ.พระนครศรีอยุธยา ตนจึงขับรถอิซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน ผฉ 3922 อุดรธานี ไปรอรับของ โดยจะมีคนโทร.มาถามทะเบียนรถ จากนั้นได้มีรถหกล้อขับมาเทียบรถตน ทั้งนี้ มีคนมาด้วย 3 คน จากนั้นได้นำยาบ้าใส่กระสอบป่านโยนลงมาให้ตน แล้วนำขึ้นรถกลับมาพักที่บ้านหลังดังกล่าว จากนั้นจะมีคนส่งไลน์เข้ามาสั่งยาว่าต้องการแบบไหน แล้วตนก็จัดยาไปส่งตามที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ โดยการนำไปโยนทิ้งไว้กลางทาง ส่วนเรื่องเงินค่ายานั้น จะมีคนจัดการอีกครั้ง เมื่อตนส่งยาบ้าหมด เสี่ยได้โอนเงินให้เป็นค่าจ้างล็อตแรกได้ 7 แสนบาท จากนั้นเสี่ยก็โทร.มาให้ตนไปรับยาล็อตที่ 2 ที่ อ.เสนานิคม จ.พระนครศรีอยุธยา โดยใช้วิธีการเหมือนครั้งแรก โดยล็อตที่ 2 นั้น รับยาบ้ามากว่า 2 ล้านเม็ด ยาอี 34,000 เม็ด ยาเค 5 กก. ยาไอซ์ 7 กก.
ทั้งนี้ ตนได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวมาแล้ว 2 เดือน และได้รับยามา 2 ล็อต ส่วนเงินค่าจ้างที่ได้มา 7 แสน ตนนำไปซื้อตู้คอนเทนเนอร์เตรียมเปิดทำร้านอาหารที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำ นายอานนท์ ส่ง บช.ปส. เพื่อทำการสอบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
