xs
xsm
sm
md
lg

อีกราย! 4 อดีตครูบึงโขงหลง ร้อง ยธ.รื้อคดี หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี ฐานทำลายวัตถุพยาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - 4 อดีตครูโรเรียนบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ร้อง ยธ.ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี ให้ออกจากราชการ หลังตำรวจแจ้งข้อหาให้การเท็จ ปิดบัง ซ่อนเร้น ทำลายวัตถุพยาน จากเหตุคนร้ายยิงเพื่อนครูเสียชีวิตในงานเลี้ยงโรงเรียน และพวกตนเก็บขวดสุราไปทิ้ง

วันนี้ (6 ก.พ.) ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายปรมัตถ์ ปุณริบูรณ์ ลูกชายนางละมัย ปุณริบูรณ์ อดีตครูโรงเรียนบึงโขงหลง ได้นำอดีตครูโรงเรียนบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ 4 คน คือ นางละมัย ปุณริบูรณ์ อายุ 54 ปี, นางบัวลอย คล่องดี อายุ 58 ปี, นางอำคา ภูต้องใจ อายุ 56 ปี และนางขวัญภักดิ์ โพธิ์คง อายุ 55 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้รื้อฟื้นคดีถูกกล่าวหาว่าให้การเท็จเพื่อการช่วยเหลือนายชูศักดิ์ สุทธศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบึงโขงหลงวิทยา จำเลยในคดีอาญาและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางวัตถุพยานในการกระทำความผิด หลังถูกศาลพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 4 คน เป็นเวลา 4 ปี โดยร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้กระทรวงยุติธรรมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อรื้อฟื้นคดีใหม่

นางบัวลอยกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 3 มี.ค. 2552 ขณะที่พวกตนกำลังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์และมีการดื่มสุรากันอยู่ที่อาคารพยาบาลภายในโรงเรียน ระหว่างสังสรรค์กันอยู่มีคนร้ายบุกเข้ามายิงนายเพทาย อมัติรัตนะ ครูโรงเรียนหนองสิมโนนสวรรค์ เพื่อนครูของนายชูศักดิ์ 3 นัด ก่อนแทงซ้ำ โดยผู้ตายและนายชูศักดิ์ สวมเสื้อสีฟ้าคอโปโลเหมือนกัน หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นพวกตนเห็นว่างานเลี้ยงเลิกแล้ว และเกรงว่าจะมีความผิดทางวินัยเพราะมีการนำสุรามาดื่มในสถานที่ราชการ จึงเก็บขวดเหล้าและแก้วเหล้าไปทิ้ง

นางบัวลอยกล่าวอีกว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้ควบคุมตัวนายชูศักดิ์ไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตาย พวกตนก็ไปให้การในฐานะพยานว่านายชูศักดิ์ไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ แต่มีคนร้ายบุกเข้ามายิงนายเพทายจนเสียชีวิต ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องนายชูศักดิ์เนื่องจากมีหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ตนกับพวกอีก 3 คนกลับถูกพนักงานสอบสวน สภ.บึงโขงหลง แจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ ให้การเท็จ และข้อหาปิดบัง ซ่อนเร้น ทำลายวัตถุพยาน เนื่องจากวันเกิดเหตุพวกตนได้เก็บของพวกขวดสุราไปทิ้ง เพราะเกรงว่าจะมีความผิดทางวินัย จึงถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 4 ปี ก่อนได้รับการพระราชทานอภัยโทษ 3 ครั้ง จากจำคุก 4 ปี เหลือจำคุก 1 ปี 1 เดือน 10 วัน และพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2559 ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้ยื่นเรื่องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดี แต่ศาลไม่รับฟ้อง

นางบัวลอยกล่าวต่อว่า จากนี้ในชั้นการรื้อฟื้นคดีนั้น พวกตนต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์และขอให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณารับพวกตนกลับเข้ารับราชการ เนื่องจากยังเหลืออายุราชการอีกหลายปี โดยก่อนหน้านี้โดนคำสั่งไล่ออกจากราชการ แต่หลังจากกระทรวงยุติธรรมเริ่มเข้ามาให้การช่วยเหลือ ศธ. จึงเปลี่ยนคำสั่งเป็นการปลดออก ทำให้ยังคงได้รับเงินบำเหน็จ บำนาญ อย่างไรก็ตาม ตนขอย้ำว่าพวกตนไม่ได้ทำผิด แต่ทำไมต้องเข้าไปติดคุกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวว่า สำหรับคดีนี้ทางกระทรวงยุติธรรมได้ลงพื้นที่ไปรวบรวมพยานหลักฐาน และได้ทำสำนวนคดีไว้แล้ว ซึ่งต่อจากนี้จะต้องส่งสำนวนให้กับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น