MGR Online - ตำรวจประชุมร่วม ป.ป.ส.-ปปง.ติดตามความคืบหน้าปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2” สรุปรถหรูลัมบอร์กินีของ “เบนซ์ เรซซิ่ง” เกี่ยวข้องแก๊งค้ายา “ท้าวไซซะนะ” ยังติดใจประเด็นยืมเงิน 6 ล้านดาวน์รถ
วันนี้ (6 ก.พ.) เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. มอบหมายให้ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.ประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อหารือถึงผลปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2”
โดย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เป็นการหารือถึงผลการปฏิบัติดังกล่าวที่ผ่านมา หลังจากการลงพื้นที่ตรวจค้นอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 40 จุดทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะเสนอให้ ป.ป.ส.ดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินต่อไป ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการดังกล่าวยังได้มีการออกหมายจับที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดจำนวน 9 ราย สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 ราย มีหมายจับ 9 ราย ส่วนอีก 6 รายที่ยังคงหลบหนีอยู่นั้น เป็นเครือข่ายของเอ๋ เจ็ดเสมียน พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.พรชัยกล่าวอีกว่า ยังติดใจและมีข้อสงสัยอีกหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นกรณีรถยนต์สปอร์ตหรูยี่ห้อ ลัมบอร์กินี กัลลาร์โด (Lamborghini Gallardo) รุ่นย่อย Super Leggera LP 570-4 สีเทา-ดำ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ที่อยู่ในความครอบครองของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง นักแข่งจักรยานยนต์ สามีของนางเอกสาวแพท-ณปภา ตันตระกูล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ารถยนต์สปอร์ตหรูคันดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับท้าวไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ รวมถึงกรณีเงินจำนวน 6 ล้านบาทที่นายอัครกิตติ์ยืมมาจากนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย เพื่อนำไปดาวน์รถลัมบอร์กินีคันดังกล่าว
นอกจากนี้จะทำการประสานไปยังเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบกเพื่อมาตรวจสอบทะเบียนรถของลัมบอร์กินี และตอนนี้ยังไม่มีการเชิญ น.ส.ธัญรัตน์ วีระเดช ชาว จ.ลำพูน เจ้าของทะเบียนรถ กจ 51 กทม.ที่กลายมาเป็นทะเบียนรถลัมอร์กีนีคันนี้ ขณะเดียวกัน ลัมบอร์กินีคันดังกล่าวถูกซื้อมาจากเต็นท์รถแห่งหนึ่ง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพถ่ายคนมีชื่อเสียง ทั้งดารา ไฮโซ และลูกนักการเมือง ถ่ายภาพคู่กับท้าวไซซะนะตามที่มีการเสนอข่าวออกไปนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีความเกี่ยวพันกันมากน้อยแค่ไหน โดยในวันนี้ที่ประชุมจะหาข้อสรุปได้ในระดับหนึ่ง
ต่อมาเวลา 15.50 น.พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่า จากการร่วมกันประชุมทั้ง 3 ฝ่าย ถึงกรณีดังกล่าวโดยทางคณะทำงานมีความเห็นว่า ยังขาดข้อมูลในประเด็นการครอบครองรถยนต์สปอร์ตหรู แลมโบกีนี่ ที่อยู่ในความครอบครองของนายอัครกิตต์ และประเด็นเงินดาวน์ จำนวน 6 ล้าน ที่ยืมมาจากนายบอย รวมถึงเงินจำนวน 3 แสนบาท ที่นายบอยโอนเข้าบัญชีร้านแต่งรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ "Area 51" ซึ่งเป็นหุ้นส่วนร่วมกับนายอัครกิตต์ โดยนายอัครกิตต์ ได้ให้การพร้อมนำหลักฐานบางส่วนมาชี้แจงเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และคำให้การของพยานต่างๆ เพิ่มเติมอีกสักระยะหนึ่ง แต่จะมีการเร่งรัดโดยเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันหลักฐานบางอย่างเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการประสานการทำงานร่วมกัน อาจทำให้การทำงานล่าช้าลงไปบ้าง
พล.ต.ต.พรชัย ยังกล่าวอีกว่า ทางพนักงานสอบสวนเตรียมเชิญบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องอีกอย่างน้อย 2 คน เข้าให้ปากคำ โดยทั้ง 2 คนนี้ มีความเกี่ยวพันกับรถยนต์สปอร์ตหรู แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า เป็นลูกนักการเมือง หรือบุคคลมีชื่อเสียงรายใด โดยพนักงานสอบสวนจะเป็นคนพิจารณาว่า จะเป็นการเรียกในฐานะพยานสนับสนุนข้อมูลหรือในฐานะผู้ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม เรื่องการเข้าชี้แจงแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เป็นสิ่งที่นายอัครกิตติ์ สามารถกระทำได้ แต่หากในทางการสืบสวนสอบสวน พบหลักฐานว่า นายอัครกิตต์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจริง ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และเชื่อว่า เจ้าหน้าที่มีหลักฐานเพียงพอสำหรับการดำเนินการต่อไป
