MGR Online - ตำรวจ 191 ลุยจับแก๊งดัดแปลงขายอาวุธปืนบีบีกันใช้กระสุนจริง ผ่านอินเทอร์เน็ตกว่า 5 เดือน ยึดของกลางกว่า 500 กระบอก เครื่องกระสุนปืนกว่า 1 แสนนัด
วันนี้ (27 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. และ พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมภายใต้ยุทธการชาวประชาอุ่นใจ 25 จุด ในพื้นที่ กทม. และ ปริมณฑล โดยสามารถตรวจค้นจับกุม นายมนัส ศรศรีชัย และ นายปิยชัย เรืองสาท พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนปากกา) จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนบีบีกัน จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ แบบหักลำ .38 จำนวน 1 กระบอก โครงปืนจำนวน 1 อัน กระสุนปืน .380 จำนวน 18 นัด กระสุนปืน .32 จำนวน 112 นัด กระสุนปืน .22 จำนวน 2,277 นัด กระสุนปืน .45 จำนวน 150 นัด กระสุนปืน .18 จำนวน 50 นัด กระสุนปืน 9 มม. จำนวน 50 นัด กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 25 นัด กระสุนปืนหัวรู .38 จำนวน 5 นัด กระสุนปืนซ้อมยิงแห้ง .38 จำนวน 1 นัด กระสุนปืนซ้อมยิงแห้ง .45 จำนวน 1 นัด ปลอกกระสุนปืน 0.22 มม. จำนวน 11 ปลอก โม่ปืน จำนวน 2 อัน มีดพับ จำนวน 1 เล่ม อุปกรณ์เครื่องมือในการดัดแปลงเครื่องกระสุนปืน จำนวน 1 ชิ้น เป้าซ้อมระยะ 10 ม. จำนวน 500 ใบ ไอซ์ จำนวน 0.98 กรัม และ กระท่อม จำนวน 1 ถุง
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า มีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ต จึงทำการสืบสวนติดตาม และได้ประสานทางไปรษณีย์ไทย จนสามารถจับกุม นายมนัส และ นายปิยชัย ไว้ได้ ก่อนทำการสืบสวนขยายผล ว่า ทั้งคู่มีการจำหน่ายอาวุธปืนบีบีกันดัดแปลง อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องกระสุน และอุปกรณ์ในการดัดแปลงอาวุธปืนในเฟซบุ๊ก โดยจะมีแหล่งที่ตั้งในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จ.กาญจนบุรี และเขตปริมณฑล ส่วนอาวุธปืนจะขายในราคาเริ่มต้นที่ 6,000 - 15,000 บาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนขยายผลทราบอีกว่า มีกลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีในราคา 2,000 บาท เพื่อให้กลุ่มผู้ต้องหาใช้ทำธุรกรรม จึงอยากจะขอฝากไปถึงบุคคลที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้กับผู้กระทำความผิด ว่า ไม่ว่าคุณจะได้รับหรือไม่ได้รับผลประโยชน์ก็ตาม แต่สิ่งที่คุณทำอยู่นั้น เข้าข่ายความผิดทางอาญา ฐานร่วมกันกระทำความผิด และจำหน่ายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับและจำคุก
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในคดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนติดตามมากว่า 5 เดือน จนสามารถตรวจยึดอาวุธปืนได้ 500 กระบอก และกระสุนปืน 100,000 นัด หลังจากนี้ ยืนยันว่า จะดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันการนำอาวุธปืนมาก่อเหตุอาชญากรรม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันประกอบนำเข้าจำหน่ายอาวุธปืนเพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดให้โทษ (ประเภท 1, 2, 5) ยาไอซ์ กระท่อม และยาบ้า ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจากการสอบสวนยังพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้าอาวุธปืนออนไลน์ที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ก่อนหน้า เจ้าหน้าที่จะดำเนินการขยายผล ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่อาจจะยังเหลือต่อไป
