MGR Online - ตม. ผลักหนุ่มเช็กออกนอกประเทศ ข้อหาโอเวอร์สเตย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับตำรวจสากลข้อหา “จงใจแพร่โรคติดต่อร้ายแรง พรากผู้เยาว์ ถ่ายคลิปลามกอนาจาร”
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. นำตัว นายเซเดนิก ไฟยฟอร์ (MR.ZDNEK PFEIFER) สัญชาติเช็ก ผู้ต้องหาตามหมายแดงตำรวจสากล ในข้อหา “จงใจแพร่โรคติดต่อร้ายแรง พรากผู้เยาว์ ถ่ายคลิปลามกอนาจาร” มาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินการส่งกลับประเทศต้นทาง โดยมี MR.JAROSLAV ZAMAZAL กงสุลสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของทางการเช็ก จำนวน 6 นาย เดินทางมารับตัวกลับประเทศ
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ในคดีดังกล่าว ศาลได้พิพากษาลงโทษ นายเซเดนิก ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) เรียบร้อยแล้ว นายเซเดนิก ถือว่าเป็นบุคคลต่างด้าวที่ถูกดำเนินคดีสิ้นสุดตามกฎหมาย ต้องถูกส่งกลับออกนอกราชอาณาจักร
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำ นายเซเดนิก รับว่า ระหว่างหลบซ่อนตัวใน จ.ภูเก็ต ได้เดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยว และชักชวนคู่ขาหลายคนมีเพศสัมพันธ์ แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยังไม่สามารถดำเนินคดีในข้อหาอื่นๆ กับนายเซเดนิกได้ ที่ผ่านมา สตม. พยายามดำเนินการผลักดันนายเซเดนิก แต่การดำเนินการล่าช้า เนื่องจากไม่มีสายการบินแห่งชาติทำการบินตรงระหว่างประเทศไทย กับ สาธารณรัฐเช็ก จึงต้องทำการต่อเครื่องที่ประเทศในแถบยุโรป และหลายสายการบินได้ปฏิเสธการขึ้นเครื่อง เนื่องจากกังวลถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารในเที่ยวบิน ประกอบกับทางการเช็กได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ของไทยเป็นผู้ไปส่ง
แต่ด้วยความห่วงใยจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ว่า การที่จะต่อเครื่องและเดินทางไกลนั้น อาจจะเป็นปัญหาได้ เพราะนายเซเดนิก มีรูปร่างสูงใหญ่ ยากต่อการควบคุม อาจทำการหลบหนีได้ หรือทำอันตรายเจ้าหน้าที่ ทาง สตม. จึงประสานให้ทางการเช็ก ส่งเจ้าหน้าที่ จำนวน 6 นาย เดินทางมาควบคุมตัวกลับไปประเทศต้นทางในวันนี้ ซึ่งเที่ยวบินจะออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงบ่ายวันนี้ (24 ม.ค.) ไปทำการต่อเครื่องที่เมือง Frankfurt ประเทศเยอรมนี เพื่อเดินทางกลับสาธารณรัฐเช็ก สำหรับคดีดังกล่าวนั้น ทาง สตม. ได้บันทึกข้อมูลในระบบบุคคลต้องห้าม (Black List) เพื่อป้องกันไม่ให้เดินทางเข้าประเทศไทยได้อีก
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวอีกว่า ได้ฝากถึงผู้ประกอบการโรงแรม หอพัก เกสต์เฮาส์ และพี่น้องประชาชน ที่ให้คนต่างชาติเข้าพักอาศัย ขอความร่วมมือแจ้งที่พักตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองฯ มาตรา 38 แต่ในคดีดังกล่าว พบว่า เจ้าของที่พักอาศัยไม่ได้แจ้งที่พัก ทำให้ยากต่อการติดตามตัว กระทบถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและสังคม ซึ่ง สตม. ได้ดำเนินคดีกับเจ้าของที่พักตามกฎหมายแล้ว และขอขอบคุณผู้ที่แจ้งเบาะแสให้ตำรวจท้องที่ทราบ
