MGR Online - กองปราบปรามตามรวบหนุ่มแสบ “แชตบีทอล์ก” ลวงสาวมาพบ ออกอุบายยืมรถเก๋งขนของแล้วเชิดหนี สอบประวัติพบเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายครั้ง มีหมายจับติดตัว
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.มอบหมาย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.วัฒนชัย มณีรัตน์ รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.6 บก.ป. ร่วมกับตำรวจ กก.4 บก.ทล. และตำรวจ สภ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด เข้าจับกุม นายสุริยัญ ภูโสภา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 1 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.417/2554 ลงวันที่ 26 กันยายน 2554 ข้อหายักยอกทรัพย์ พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน มาร์ช สีดำ ทะเบียน กค 8640 กาฬสินธุ์ จับกุมได้ที่ริมถนนใกล้ตลาดแวงน่าง ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนธันวาคม 2559 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย ได้ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือผ่านทางเฟซบุ๊กของ กก.6 บก.ป.ว่าถูกผู้ต้องหาซึ่งรู้จักผ่านทางโปรแกรมแชตบีทอล์ก (Bee Talk) หลอกลวงเอารถยนต์คันดังกล่าวของตนขับหลบหนีไป เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา โดยได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ไว้แล้ว ต่อมาชุดสืบสวน กก.6 บก.ป.จึงเร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้และสามารถติดตามรถยนต์ของกลางคืนกลับมาได้ หลังจากผู้ต้องหาได้นำรถคันดังกล่าวไปจำนำ
สอบสวนนายสุริยัญรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง โดยติดต่อพูดคุยกับผู้เสียหายก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงนัดพบกันและได้ออกอุบายขอยืมรถยนต์ผู้เสียหายโดยอ้างว่าจะนำไปใช้ขนของแล้วจะรีบขับรถกลับมารับ ก่อนจะหลบหนีไป ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะต้องการหาเงินใช้
จากการตรวจสอบประวัตินายสุริยัญ พบว่าเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยหลอกลวงเอาทรัพย์สินมีค่าจากผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาวมาเป็นเวลานับสิบปี โดยมีหมายจับติดตัวอยู่ 2 หมาย ได้แก่ หมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ 15/58 ลงวันที่ 15 มกราคม 2558 ข้อหาลักทรัพย์ และหมายจับศาลแขวงพิษณุโลก ที่ จ.416/2554 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2554 ข้อหาฉ้อโกง
ด้าน น.ส.เอ ผู้เสียหายกล่าวว่า รู้จักกับนายสุริยัญเมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2559 หลังจากพูดคุยกันผ่านโปรแกรมบีทอล์ก โดยเขาอ้างตัวว่าทำงานเป็นวิศวกร ส่วนครอบครัวมีธุรกิจโรงแรมอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อคุยกันจนเริ่มสนิทก็มีการแลกไลน์กันไว้ ที่ผ่านมาผู้ต้องหาจะเป็นฝ่ายชวนคุยเรื่องทั่วไป จนเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมาเขาอ้างว่าได้เข้าพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และอยากจะพบกับตน จึงนัดหมายกันที่สำนักงานธนารักษ์ จ.กาฬสินธุ์ ต่อมาทางผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้นำรถยนต์มา ก่อนจะขอยืมรถของตนไปทำธุระที่ จ.ขอนแก่น ตนก็ยังไม่กล้าให้เขายืม โดยบอกว่าขอให้รอก่อน เมื่อเลิกงานแล้วจะขับรถไปให้ แต่ก็เผลอเสียบกุญแจรถทิ้งไว้ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าชั่วระยะเวลาไม่นานเขากลับขับรถหนีไป
น.ส.เอกล่าวต่อว่า หลังจากผู้ต้องหาขับรถของตนไปครั้งแรกก็ยังคิดว่าเขารีบไปธุระจริงจึงรอ แต่หลังจากเวลาผ่านไปนานก็ยังไม่กลับมาจึงพยายามติดต่อหาซึ่งก็ติดต่อไม่ได้ จนเวลาผ่านไป 2 วันทำให้เชื่อว่าถูกหลอกเอารถยนต์ไปแล้วจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และประสานผ่านทางเฟซบุ๊กของตำรวจ กก.6 บก.ป.ขอความช่วยเหลือกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ดังกล่าว


