ตำรวจบุกค้นร้านกวงอะไหล่ ย่านบางพลี จับ 4 ผู้ต้องหา แก๊งตระเวนโจรกรรมรถแยกชิ้นส่วนส่งขายเขมร ของกลางอะไหล่กว่า 1,000 รายการ คนร้ายเผยเน้นรถรุ่นซูมเมอร์ เอ็กซ์ และ เอ็มเอสเอ็กซ์ หากล็อกแต่คอใช้เพียงไฟแช็กอันเดียวก็เอารถไปได้แล้ว
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 60 พ.ต.ท.ไพบูลย์ พลดวงนอก สารวัตรสืบสวน สภ.บางพลี นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นร้านกวงอะไหล่ เลขที่ 63/3 ถนนเทพารักษ์ กม.9 ม.3 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย 1. นายสุพจน์ หรือ กวง อยู่เล็ก อายุ 35 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของอู่ 2. นายอภิชา หรือ ชาติ มหาชน อายุ 35 ปี ทำหน้าที่นำเครื่องยนต์ไปพักไว้ 3. นายอัมรินทร์ หรือ ตั้ม กลิ่นจุบัน อายุ 35 ปี ทำหน้าที่ตระเวนลงมือก่อเหตุโจรกรรมรถ 4. นายตะวัน หรือ แดง ปิ่นแก้ว อายุ 24 ปี ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้นายอัมรินทร์ ในการตระเวนก่อเหตุ ซึ่งกำลังแยกชิ้นส่วนอะไหล่รถจักรยานยนต์อยู่ภายในร้าน จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบปากคำขยายผล
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า นายตั้ม และ นายแดง เป็นผู้ต้องหาที่คอยตระเวนออกไปโจรกรรมรถจักรยานยนต์ตามแหล่งชุมชนต่างๆ ทั่วจังหวัดสมุทรปราการ หลังโจรกรรมเสร็จก็จะนำรถมาที่ร้านแห่งนี้ทันที เพื่อทำการแยกชิ้นส่วนต่างๆ แพ็กใส่กล่องกระดาษ รอการขนย้ายส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนตัวถังคอรถ และป้ายทะเบียนของรถนั้น จะนำไปโยนทิ้งในคลองบางปลา และ คลองสาธารณะริมถนนเทพารักษ์ กม.9 เพื่อทำลายหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู และ ป่อเต็กตึ๊ง สามารถค้นหาป้ายทะเบียนรถ และชิ้นส่วนตัวถังคอรถได้อีกจำนวนหนึ่ง
ขณะที่จากการขยายผล เจ้าหน้าที่สามารถยึดอะไหล่รถชนิดต่างๆ จำนวนมาก อาทิเช่น คอรถและเลือนไมค์ วงล้อ เครื่องยนต์ ชุดสี และอื่นๆ รวมกว่า 1,000 รายการ นอกจากนั้น ยังสั่งอายัดรถหรูมินิคูเปอร์ และรถยนต์กระบะของผู้ต้องหามาตรวจสอบเส้นทางการได้มาอีกด้วย
นายสุพจน์ หรือ กวง ให้การยอมรับว่า ตนเองเป็นผู้รับซื้อรถจักรยานยนต์ที่นายตั้ม และ นายแดง โจรกรรมมา ในราคาคันละ 5,000 บาท โดยจะนำมาแยกชิ้นส่วนต่างๆบรรจุลังกระดาษส่งขายประเทศกัมพูชา ผ่านทางบริษัทขนส่งสินค้า โดยจะขายในราคาคันละประมาณ 10,000 - 12,000 บาท ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่ตลาดของประเทศเพื่อนบ้านต้องการในขณะนี้ คือ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซูมเมอร์เอ็กซ์ และ เอ็มเอสเอ็กซ์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและขายต่อได้ง่าย
ด้าน นายตั้ม กล่าวว่า ตนเองทำหน้าที่ออกขโมยรถจักรยานยนต์ตามหอพัก และชุมชนต่างๆ โดยไม่เลือกช่วงเวลา อาศัยจังหวะเหมาะสมเท่านั้น ส่วนการลงมือโจรกรรมตนเองใช้เพียงไฟแช็กอันเดียวเท่านั้น (เจ้าหน้าที่ขอสงวนวิธีการเพื่อไม่ให้เกิดการลอกเลียนแบบ) และมักจะเลือกเป้าหมายที่ล็อกเพียงคอรถเท่านั้น หรือประเภทลืมล็อกคอ เนื่องจากใช้เวลาในการโจรกรรมไม่ถึง 5 นาที หากพบว่ารถเป้าหมายนั้นมีการล็อกโซ่ หรือ กุญแจดิสก์เบรก ก็จะไม่เลือกคันนั้น เนื่องจากต้องใช้เวลาพอสมควรในการลงมือ
ทั้งนี้ ผู้ต้องหารายนี้ยังแนะนำถึงวิธีป้องกันรถหายให้กับเจ้าของรถ อีกว่า หากไม่อยากตกเป็นเป้าหมายของโจร ก็สมควรล็อกรถให้แน่นหนา ควรจะล็อกรถมากกว่า 1 จุด ไม่แค่ล็อกคอรถเท่านั้น ควรจะเพิ่มการล็อกที่ขาตั้งคู่ การล็อกที่ดิสก์เบรก เมื่อโจรเห็นก็จะเปลี่ยนเป้าหมายทันที เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์และเสียเวลาค่อนข้างมากในการโจรกรรม จึงมักจะไม่เลือกขโมยรถที่มีการล็อกประเภทดังกล่าว
ด้านผู้เสียหายหลายรายเดินทางมาขอดูของกลางที่ตำรวจสามารถยึดมาได้ โดยบางรายถึงกับเข่าอ่อน เมื่อเห็นสภาพรถของตนเองที่ซื้อมาด้วยเงินผ่อนรวมแล้วราคาตกเกือบ 1 แสนบาท ถูกแยกชิ้น เคราะห์ดีที่อะไหล่สำคัญต่างๆ ยังอยู่ครบ เจ้าหน้าที่จึงให้ประกอบคืนสภาพเดิมเพื่อติดต่อขอรับรถกลับไปใช้งาน
พ.ต.อ.โสภณ โสภณมงคลรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า สำหรับแก๊งโจรกรรมรายนี้ถือว่าเป็นรายสำคัญ และรายใหญ่ของจังหวัดสมุทรปราการ ที่พบว่ามีการลงมือก่อเหตุบ่อยครั้ง และจากการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ก็พบว่าอะไหล่รถจำนวนมากที่ถูกชำแหละแยกชิ้นส่วนรอส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่สามารถแกะรอยคนร้ายจากพยานหลักฐานต่างๆ จนสามารถสืบทราบว่ามีการเปิดอู่ซ่อมรถบังหน้า เพื่อใช้เป็นสถานที่ชำแหละแยกชิ้นส่วนส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
การจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นการตัดวงจรของแก๊งโจรกรรมรถได้อีกรายหนึ่ง ทั้งนี้ ต้องขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังเจ้าของรถโดยเฉพาะรถรุ่นซูมเมอร์ เอ็กซ์ และ เอ็มเอสเอ็กซ์ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด และแนวทางการสอบสวนและการให้ปากคำของคนร้าย พบว่า รถทั้งสองรุ่นนี้โจรกรรมได้ง่ายมาก เพียงแค่ใช้ไฟแช็กเพียงอย่างเดียวก็สามารถขโมยรถทั้งคันได้ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังเจ้าของรถ ไม่ว่าจะจอดในสถานที่ใดต้องไม่ประมาท และยอมเสียเวลาสักนิดในการเพิ่มจุดล็อกรถหลายๆ จุด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเป้าหมายของโจร
ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่ต้องสงสัยว่าเคยถูกก่อเหตุจากกลุ่มผู้ต้องหารายนี้ สามารถเดินทางมาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ได้ที่ สภ.บางพลี