MGR Online - โร่มอบตัวกองปราบปรามอีก 3 ราย ผู้ต้องหาคดีตุ๋นเหยื่อเข้าเป็นทหาร เบื้องต้นให้การปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมเตรียมเอกสารจัดงานมอบให้พนักงานสอบสวน และโฉนดที่ดินเพื่อประกันตัว
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.6 บก.ป.ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัว 9 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังจากกลุ่มผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวได้หลอกลวงผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ว่ามีโควตาสามารถพาผู้เสียหายฝากเข้ารับราชการทหารได้โดยไม่ต้องสอบบรรจุ เพียงแค่ยอมจ่ายค่าดำเนินการให้แก่ผู้ต้องหากลุ่มนี้ ก่อนที่จะจัดฉากหลอกผู้เสียหายด้วยการพาผู้เสียหายไปเข้ารับการฝึกอบรม และจัดพิธีประดับยศขึ้นมาเพื่อตบตาเหยื่อให้หลงเชื่อ กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวได้แล้วจำนวน 6 คน คงเหลือผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีการจับกุมตัวอีก 3 ราย พร้อมกับเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเพิ่มเติมอีก 1 ราย ว่า 3 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวที่อยู่ระหว่างการติดตามตัว ประกอบด้วย นายรัชชานนท์ ดวงสี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/376 หมู่ 17 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี, น.ส.กมลพรรณ ซอรสี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 12 ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน และ น.ส.กนกวรรณ ไชยหาญ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 1 ต.อวน อ.ปัว จ.น่าน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2092-2094/2559 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2559 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน พร้อมทนายความ ได้เดินทางมาเข้าพบ พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.6 บก.ป. เพื่อติดต่อเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนำเอกสารเป็นข้อมูลการติดต่อกับ น.ส.เสาวนีย์ หรือณัฐณิชา สุนทร อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวก่อนหน้านี้มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐาน
นายรัชชานนท์กล่าวว่า ได้ทราบข่าวว่าตนพร้อมด้วย น.ส.กนกวรรณ และน.ส.กมลพรรณ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากตนเองและเพื่อนทั้ง 2 คนนั้นก็ตกเป็นเหยื่อถูก น.ส.เสาวนีย์หลอกลวงเช่นเดียวกับผู้เสียหายรายอื่นๆ โดยก่อนหน้านี้ตนและเพื่อนได้รู้จัก น.ส.เสาวนีย์ ผ่านทางนายธณรัสย์ นภิศสิริปภัสร์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่เดินทางมาติดต่อมอบตัวก่อนหน้านี้ ที่ได้แนะนำว่า น.ส.เสาวนีย์มีโควตาสามารถฝากเข้ารับราชการทหารได้ ตนและเพื่อนจึงสนใจ แต่เนื่องจากไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าดำเนินการให้ น.ส.เสาวนีย์ได้ นายธณรัสย์จึงอาสาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้พวกตนก่อน โดยตกลงกันว่าหากได้รับเข้าบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่ทหารแล้วจะต้องกู้เงินจากเงินกองทุนสหกรณ์ทหารฯ มาใช้คืนให้แก่นายธณรัสย์
นายรัชชานนท์กล่าวต่อว่า ในช่วงเวลานั้นตนค่อนข้างเชื่อมั่นว่า น.ส.เสาวนีย์สามารถพาตนและเพื่อนฝากเข้าเป็นทหารได้จริงตามที่ตกลงกันไว้ เนื่องจาก น.ส.เสาวนีย์ได้นำเอกสารเป็นหนังสือเกี่ยวกับคำสั่งแต่งตั้งของทางกรมทหารที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมาหลอกพวกตนว่าได้รับการบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่ทหารในยศร้อยตรีแล้ว รอเพียงคำสั่งเรียกตัวเข้าปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้ากลับยังไม่มีวี่แววที่จะได้เป็นทหารตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อสอบถามกลับไปก็ถูกบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่ารอหนังสือคำสั่งจากทางกรมทหาร ตนและเพื่อนจึงเริ่มเอะใจว่าตกเป็นเหยื่อถูก น.ส.เสาวนีย์หลอกแน่ จึงเริ่มรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัด กระทั่งมาทราบข่าวต่อมาในภายหลังว่า น.ส.เสาวนีย์ และพวกถูกจับกุมตัวดังกล่าว รวมถึงตนและเพื่อนเองนั้นก็ยังมากลายเป็นผู้ต้องหาถูกออกหมายจับตามมาอีกด้วย
นายรัชชานนท์กล่าวอีกว่า ในส่วนของกรณีที่ตนและเพื่อนมีภาพปรากฏอยู่ในพิธีประดับยศที่ น.ส.เสาวนีย์ จัดขึ้น ขอชี้แจงในส่วนนี้ว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับพิธีการดังกล่าวมาก่อน แต่ยอมรับว่าได้ไปเข้าร่วมงานจริงตามคำเชิญของ น.ส.เสาวนีย์ ก่อนที่ น.ส.เสาวนีย์จะเดินมาบอกให้พวกตนสวมใส่เครื่องแบบทหารทำหน้าที่เป็นพิธีกรในพิธี และยืนถือพานประดับยศ โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งตนไม่เคยเห็นหน้าหรือพบเจอมาก่อน และไม่ทราบด้วยว่าเป็นพิธีการที่ถูกจัดฉากขึ้นมาเพื่อตบตาเหยื่อ
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การภาคเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ร่วมขบวนการ โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในคดีมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับเตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมาขอยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวนเพื่อขอต่อสู้คดีต่อไป