xs
xsm
sm
md
lg

ป.รวบผัวเมียจอมแสบหนีคดีกว่า 6 ปี แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นดีเอสไอ.-จนท.แบงก์โทร.หลอกเหยื่อโอนเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตำรวจกองปราบปรามรวบผัวเมียจอมแสบ ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่แบงก์ โทร.หลอกเหยื่อโอนเงินให้ทำเมนูภาษาอังกฤษเพื่อล้างหนี้ มีเหยื่อตกหลุมพรางหลายราย ก่อนหนีคดีกบดานย่านนนทบุรีกว่า 6 ปี

วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.กรกช ยงยืน สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายเอกลักษณ์ กระแตเซ็ง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 ม.20 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.287/2559 ลงวันที่ 30 มี.ค.59 ในข้อหายักยอกทรัพย์ และน.ส.สุวิมล ลิ้มรสธรรม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188/45 ม.1 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สามีภรรยา ตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ จ.237/2554 ลงวันที่ 5 ส.ค. 2554 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ได้ที่บริเวณหน้าหอพักเอสพีแมนชั่น เลขที่ 1/5 ม.3 ต.บางขุนทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

ทั้งนี้เมื่อปี 2554 น.ส.สุวิมลได้มีร่วมกับพวกซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้มีพฤติกรรมตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์สุ่มโทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้เสียหาย ก่อนจะอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารต่างๆ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จากนั้นก็จะออกอุบายหลอกผู้เสียหายว่าผู้เสียหายเป็นหนี้บัตรเครดิต มีข้อมูลทางการเงินผิดปกติขอทำการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินโดยด่วน พร้อมกับบังคับให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอนที่ตนเองสั่ง โดยการให้ผู้เสียหายเดินไปที่ตู้เอทีเอ็ม จากนั้นก็จะหลอกเหยื่อให้ทำธุรกรรมการเงินที่ตู้เอทีเอ็มเป็น “เมนูภาษาอังกฤษ” โดยแจ้งว่า ทำเพื่อล้างรายการหนี้สิน หรืออาจหลอกให้เหยื่อไปโอนเงินให้หน่วยงานภาครัฐเพื่อตรวจสอบ กว่าที่เหยื่อจะรู้ตัวว่าถูกหลอกเงินในบัญชีก็ถูกโอนเข้าบัญชีผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนทราบว่า น.ส.สุวิมล ได้หลบหนีมากบดานอยู่ในแมนชั่นดังกล่าวจึงนำกำลังเข้าจับกุมขณะพักอาศัยอยู่กับนายเอกลักษณ์ สามี ต่อมาได้ทำการตรวจสอบประวัติของนายเอกลักษณ์ พบว่ามีหมายจับในคดียักยอกทรัพย์ติดตัว จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

การสอบสวนสามีภรรยาคู่นี้ยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.สุวิมล พบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายพื้นที่ พร้อมทั้งมีหมายจับในคดีลักษณะดังกล่าวติดตัวอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา อีกหนึ่งคดี รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก น.ส.สุวิมล กว่า 7 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ดำเนินคดีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น