ตำรวจคุมตัวอดีตพ่อบ้านเมายาปีนลักทรัพย์เจ้าหน้าที่ศาลอาญาชั้น 9 ฉกสร้อยทองไม่เว้นปลากระป๋องเอเอสทีวี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ รับเสพทั้งไอซ์-สุราก่อนก่อเหตุ
วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบ.ช.น., พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตร์สาทร ผกก.สน.พหลโยธิน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้ควบคุมตัว นายวราพงษ์ สอนน่วม อดีตพ่อบ้านประจำศาลอาญา ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เกิดเหตุคืนวันที่ 1 ม.ค. 2560 วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ มาชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกที่บริเวณซอยปั๊มน้ำมัน ปตท.ด้านข้างศาลอาญา จุดที่ผู้ต้องหาขี่จักรยานยนต์มาจอดก่อนปีนรั้วเข้าไปภายในพื้นที่ศาลอาญา และปีนออกมาหลังจากก่อเหตุรื้อค้นทรัพย์สินแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดที่รื้อค้นตู้ลิ้นชัก บริเวณห้องศูนย์พักความและบริหารงานคดี ชั้น 9 อาคารศาลอาญา ซึ่งคนร้ายได้สร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท และเงินสด 4,000 บาท รวมมูลค่าประมาณ 24,000 บาท และห้องชั้น 10 ที่คนร้ายรื้อค้นแต่ไม่ได้ทรัพย์สิน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนไปทำข่าวภายในตัวอาคารศาลอาญาแต่อย่างใด
ภายหลัง พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า กรณีผู้ต้องหาอ้างว่าจำเหตุการณ์ที่รื้อค้นทรัพย์ไม่ได้เนื่องจากผู้ต้องหาเสพยาไอซ์ทำให้จำเหตุการณ์บางส่วนไม่ได้ แต่เหตุการณ์ส่วนใหญ่ผู้ต้องหานำชี้ประกอบคำรับสารภาพได้อย่างชัดเจน และเรามีพยานบุคคลและสร้อยทองที่เป็นวัตถุพยาน รวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เมื่อนำไปชี้จุดเกิดเหตุก็สามารถชี้ได้ตรงกัน และยังยอมรับว่าเอาสร้อยข้อมือทองคำไปและขายให้ร้านทองจริง ตำรวจไปตรวจสอบก็เจอของกลาง รวมทั้งไปตรวจค้นที่ห้องพักก็พบหลักฐานอย่างชัดเจน ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมนั้นได้ปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ในศาลอาญาแล้ว ทางตำรวจก็ยินดีที่จะดำเนินการให้โดยจะยื่นขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาในวันศุกร์นี้
“ถามว่าเหตุใดจึงเข้ามาขโมยทรัพย์สิน เพราะเขาเคยเป็นพ่อบ้านทำงานอยู่ที่ศาลมานานตั้งแต่ปี 2547-2554 รู้สึกคุ้นชินว่าเป็นที่ของเขา โดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าสถานที่นี้เป็นสถาบันของศาล ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องพยานหลักฐาน เพราะเราได้วิทยุสื่อสาร ปลากระป๋องที่ขโมย สร้อยทอง มายืนยันการก่อเหตุได้ พร้อมพาไปชี้จุดว่าเข้าไปรื้อค้นห้องไหนบ้าง หลังจากนี้จะนำไปขยายผลว่ามีทรัพย์สินอื่นใดอีก โดยจะรวบรวมหลักฐานให้มัดแน่นนอกจากคำรับสารภาพ การชี้จุดที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพแล้วต้องรอรับผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ด้วย คาดว่าจากหลักฐานทั้งหมดจะทำให้การพิจารณาคดีในชั้นศาลปราศจากข้อสงสัยได้” พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตร์สาทร ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นพ่อบ้านอยู่ที่ศาล และก่อเหตุลักทรัพย์ตู้บริจาคของศาลอุทธรณ์ หลังก่อเหตุได้หลบหนีคดีไปตั้งแต่ปี 2554 ศาลได้ออกหมายจับไว้ และช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมามาก่อเหตุปีนรั้วของศาลที่อยู่ระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดกับศาลอาญาเข้าไปในพื้นที่ศาลอาญา ก่อนจะรื้อค้นทรัพย์สินบริเวณชั้น 9 ศาลอาญา ส่วนสร้อยข้อมือทองคำที่ขโมยได้นำไปขายที่ร้านทองย่านวังหิน ตำรวจได้พาผู้ต้องหาไปชี้จุดและนำสร้อยข้อมือทองคำที่ขายไว้ที่ร้านทองมาเป็นของกลาง นอกจากนี้ยังมีปลากระป๋องเอเอสทีวีอีกจำนวนหนึ่ง
