MGR Online - อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์บัณฑิต มศว มีประวัติโชกโชน เตรียมรวบรวมข้อมูลผู้กระทำผิดเป็นชุดเดียวกันป้องกันก่อเหตุซ้ำ
สืบเนื่องจากกรณีนายกิตติกร หรือตั้ม วิกาหะ อายุ 26 ปี ใช้อาวุธมีดแทงตามร่างกายและลำคอนายวศิน เหลืองแจ่ม อายุ 25 ปี บัณฑิตจบใหม่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) จนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป บริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. โดยจากการตรวจสอบประวัติเคยติดคุกมาแล้ว 8 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 13 ปี
วันนี้ (6 ม.ค.) กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า ตามที่เจ้าพนักงานตำรวจ บช.น.จับกุมนายกิตติกร ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้มีดยาวปาดและแทงคอ นายวศิน เพื่อชิงไอโฟนจนเสียชีวิตนั้น จากการตรวจสอบประวัติปรากฏว่านายกิตติกร เคยถูกคุมความประพฤติในความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์, พ.ร.ก.สารระเหย, บุกรุกในเวลากลางคืน, ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และทำให้เสียทรัพย์ รวม 3 คดี เมื่อปี 2549, 2550 และ 2553 ตามลำดับ แต่ไม่ไปรายงานตัวตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด
พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์เปิดเผยอีกว่า พนักงานคุมประพฤติจึงได้รายงานการผิดเงื่อนไขดังกล่าวให้ศาลทราบและศาลได้ออกหมายจับแล้วทั้ง 3 คดี ต่อมาได้เข้าสู่กระบวนการสืบเสาะและพินิจ เมื่อปี 2557 ศาลแขวงสมุทรปราการสั่งให้พนักงานคุมประพฤติดำเนินการสืบเสาะ ก่อนมีคำพิพากษาในความผิดฐาน พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา โดยพนักงานคุมประพฤติเสนอความเห็นว่าวิธีการคุมประพฤติไม่เหมาะสม ต่อมา ศาลจึงได้มีคำพิพากษาจำคุก 1 เดือน และพ้นโทษดังกล่าวไปแล้ว จนกระทั่งมาก่อเหตุซ้ำอีก
“ทั้งนี้ ประวัติของนายกิตติกรยังพบว่าเคยผ่านกระบวนการมาทั้ง 3 กรม ได้แก่ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมคุมประพฤติ และกรมราชทัณฑ์ ซึ่งทางนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ห่วงใยในเรื่องนี้มากจึงสั่งการให้รวบรวมข้อมูลสถิติในแต่ละปีว่าผู้ที่ผ่านกระบวนการทั้ง 3 กรม มีผู้กระทำความผิดซ้ำจำนวนเท่าใดให้เป็นชุดข้อมูลเดียวกัน เนื่องจากที่ผ่านมาพบช่องโหว่ว่าเมื่อวัยเด็กกระทำผิดจะลงข้อมูลในกรมพินิจฯ แต่หากเข้าสู่วัยผู้ใหญ่กระทำผิดซ้ำอีกก็จะไม่ปรากฏข้อมูลเป็นชุดเดียวกัน ซึ่งการรวบรวมจะนำไปใช้วิเคราะห์อัตราการกระทำผิดซ้ำครั้งต่อไป” อธิบดีกรมคุมประพฤติกล่าว