MGR Online - อัยการเลื่อนสั่งคดีพระมหาศาสนมุนี หรือ “หลวงพี่แป๊ะ” กับพวก 7 คน เลี่ยงภาษีรถหรูเบนซ์โบราณ “สมเด็จช่วง” ไป 12 ม.ค.ปีหน้า เนื่องจากอัยการยังสอบสวนเพิ่มเติมไม่เสร็จ
วันนี้ (30 ธ.ค.) นายอดุลย์ เฉตวงษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เจ้าของสำนวนคดีที่นายพิชัย วีระสิทธิกุล เจ้าของอู่รถ ผู้ต้องหาที่ 1, พระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ เลขานุการสมเด็จช่วง และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ กับพวกรวม 7 คน ตกเป็นผู้ต้องหาฐานเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์เบนซ์โบราณ หมายเลขทะบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร รถในความครอบครองของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญญมหาเถร ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เปิดเผยถึงการนัดสั่งคดีว่า ในวันนี้ทางพนักงานอัยการได้มีคำสั่งให้เลื่อนการนัดสั่งคดีออกไปก่อนเป็นวันที่ 12 ม.ค. 2560 เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางอัยการได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอทำการสอบสวนเพิ่มเติมในบางประเด็น ขณะนี้ทางดีเอสไอส่งผลสอบเพิ่มเติมมาไม่ครบถ้วนจึงต้องเลื่อนนัดการสั่งคดีออกไปอีก 12 วันตามกำหนดฝากขัง สำหรับคดีนี้ทางพนักงานอัยการได้กำชับและเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอทำการสอบสวนและส่งผลการสอบเพิ่มมายังอัยการก่อนครบกำหนดระยะเวลาฝากขังครั้งที่ 7
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ดีเอสไอสรุปความเห็นควรสั่งฟ้อง โดยกล่าวหานายพิชัย วีระสิทธิกุล เจ้าของอู่รถ ผู้ต้องหาที่ 1, ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี.ที.ออโต้พาร์ท โดยนายวสุ จิตติพัฒนกุลชัย ผู้ต้องหาที่ 2, นายวสุ จิตติพัฒนกุลชัย ผู้ต้องหาที่ 3, นายเกษม หรืออ๊อด ภวังคนันท์ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) ซึ่งนำเข้าชิ้นส่วนรถโบราณ ผู้ต้องหาที่ 4, นายเมธีนันท์ หรือชลัช นิติฐิติวงษ์ ผู้ดำเนินการนำเอกสารชุดประกอบรถยนต์ไปชำระภาษีสรรพสามิต ผู้ต้องหาที่ 5, นายสมนึก บุญประไพ ผู้นำเอกสารรถยื่นกรมขนส่ง ผู้ต้องหาที่ 6 และพระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ เลขานุการสมเด็จช่วง และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ ผู้ต้องหาที่ 7 ในความผิด 6 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27, 27 ทวิ, พ.ร.บ.ภาษีสรรพาสามิต พ.ศ. 2527 มาตรา 161, 165 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 265, 267, 268