คุมตัวแนวร่วมวางแผนจ่อวินาศกรรมกรุงทำแผนฯ ย่านรามคำแหง

MGR Online - ทหารคุมตัว 6 แนวร่วมเตรียมแผนก่อนวินาศกรรมกรุงเทพฯ ส่งมอบให้ “พล.ต.อ.ศรีวราห์”ดำเนินคดีตามกฎหมาย เผยจ่อขยายผลเพิ่ม พร้อมคุมตัวหนึ่งในผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพย่านรามคำแหง

วันนี้ (13 ธ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รักษาการ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รักษาการ ผบก.ส.4 พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป.แพทย์จาก รพ.ตำรวจ พ.ต.ท.วชิรา ยาวไธสงค์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป.พร้อมกำลังตำรวจคอมมานโด กก.ปพ.บก.ป.ได้รับมอบตัว นายอุสมาน หรือมัง เจาะเงาะ อายุ 41 ปี, นายมีซี เจ๊ะหะ อายุ 19 ปี, นายปฐมพร มิหิแอ อายุ 19 ปี, นายอัมรัม มะยี อายุ 23 ปี, นายวิรัติ หะมิ อายุ 23 ปี และนายนิเฮง ยีนิง อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2504, 2512-2515 และ 2517/2559 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2559 ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง และร่วมกันกระทำการอันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ภายหลังร่วมกับพวกเตรียมการก่อเหตุวางระเบิดในพื้นที่ กทม.

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไว้ตามขั้นตอนการสอบสวนคดีความมั่นคง ภายหลังสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช.เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้งหมด โดยมีการส่งมอบตัวผู้ต้องหาในวันเดียวกันนี้

ทั้งนี้ ในส่วนของขั้นตอนการดำเนินการนั้นก็จะมีการตรวจร่างกายผู้ต้องหาทั้งหมดโดยแพทย์จาก รพ.ตำรวจ ก่อนที่พนักงานสอบสวนก็มีการจะแจ้งข้อกล่าวหา และแยกกันสอบปากคำผู้ต้องหา ซึ่งจะมีทนายความร่วมรับฟังการสอบสวน ตามขั้นตอนการพิจารณาดำเนินคดี

สำหรับการพิจารณาดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้ง 6 รายนั้น สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลภายหลังจับกุม นายตาลมีซี โต๊ะตาหยง อายุ 31 ปี, นายอับดุลาซิร สือกะจิ อายุ 19 ปี และนายมูบารีห์ กะนะ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2326-2328/2559 ในข้อหาเดียวกัน ซึ่งถูกทหารควบคุมตัวไว้ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และส่งมอบให้ทางตำรวจพิจารณาดำเนินคดี รวมทั้งมีการควบคุมตัวไปชี้จุดและตรวจค้นที่ห้องพักหลังมัสยิดยามีอุลอิสลาม ซอยรามคำแหง 53/1 เขตบางกะปิ กทม.และที่ห้องพักที่ 207 ภายในอาคารเลขที่ 4/226 ต.บางเสาธง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยการสอบสวนทราบว่ายังมีผู้ร่วมกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องรวม 14 ราย จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่มเติม

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 6 รายดังกล่าวเป็นการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมจากกรณีการจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันเตรียมการก่อเหตุคดีความมั่นคงใน กทม.3 รายก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนรายละเอียดต่างๆ นั้นอยู่ในสำนวนการสอบสวน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้วทั้ง 14 ราย แต่วันเดียวกันนี้มีการคุมตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวน 6 ราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือก็จะมีการติดตามจับกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ต้องหา 5 ราย ถูกติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอีก 1 ราย ถูกจับกุมในพื้นที่ กทม.และเนื่องจากเป็นคดีความมั่นคง ทางเจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจในการควบคุมตัวและสอบสวนไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน โดยในชั้นการสอบสวนของฝ่ายทหาร ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ซึ่งหลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้น ก็จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุ 2 แห่ง คือ ที่อพาร์ตเมนต์ ซ.รามคำแหง 53 และห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี หัวหมาก

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ต้องหาที่เหลือเท่าที่ได้รับรายงานนั้นมีการกักตัวไว้แล้ว 4 ราย ในพื้นที่ ศชต.ส่วนที่เหลือนั้นทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าทั้งหมดเคยมีประวัติหรือมีส่วนเชื่อมโยงกับการก่อเหตุวางระเบิดที่ใดมาก่อน รวมทั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับการตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินของผู้ต้องหานั้น ทาง ปปง.ก็ดำเนินการอยู่แล้ว แต่จะยังมีใครที่ว่าจ้างหรือบงการอยู่เบื้องหลังยังไม่สามารถตอบได้

ต่อมาเวลา 16.00 น. พนักงานสอบสวน บก.ป. นำโดย พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอบ ผบก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ควบคุมตัวนายนิเฮง ยีนิง อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีระเบิดซึ่งทำหน้าที่ในการสำรวจพื้นที่มาชี้จุดประกอบคำรับสารภาพจำนวน 2 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณทางลงบันไดชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง จากนั้นได้ควบคุมตัวนายนิเฮงไปชี้จุดที่ 2 บริเวณห้องพักเลขที่ 207 ภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง 53/1 ซึ่งอยู่ด้านหลังมัสยิดยามิอุ้ลอิสลาม (คลองตะเคียน) ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ บริเวณจุดที่ 2 นี้ได้ให้นายนิเฮงชี้จุดหน้าห้องเลขที่ 207 ต่อจากนั้นให้ชี้จุดที่นอนพัก และชี้ไปบริเวณหลังตู้เสื้อผ้าซึ่งเป็นจุดที่พบกล่องพัสดุ จากนั้นได้ควบคุมตัวให้ บก.ป.เพื่อดำเนินการต่อไป