MGR Online - รอง ผบ.ตร.ยันคลิปเสียงผ่านโลกออนไลน์ จัดประชุมบุกวัดพระธรรมกายไม่ใช่ตนเอง เอาอะไรมายืนยัน ย้ำไม่มีอะไรตรวจสอบได้ ศาลไม่รับฟัง ขณะเดียวกันขอตรวจสอบเข้าข่ายหมิ่นเหม่หรือไม่ ไม่ทราบจุดประสงค์ผู้โพสต์
วันนี้ (13 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีมีคลิปเสียงเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 3 คลิป ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเสียงของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ระหว่างประชุมเพื่อออกหมายค้นและจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงิน สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ว่าคลิปดังกล่าวตนได้ฟังแล้วแต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเสียงของใคร ต่อจากนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการตรวจสอบ ว่ามีข้อความไหนหมิ่นเหม่หรือไม่ อย่างไร ส่วนบุคคลที่เผยแพร่จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือไม่นั้น ต้องรอให้ผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปล่อยคลิปออกมาแบบนี้จะเป็นการดิสเครดิตหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ตรงนี้แล้วแต่ความเชื่อของบุคคล ตนไม่ทราบคนที่โพสต์ประสงค์สิ่งใด จะเป็นการปลุกระดมมวลชนหรือไม่นั้นตนไม่ทราบเช่นกัน แต่หลักของกฎหมายคลิปเสียง ศาลไม่รับฟัง พิสูจน์ไม่ได้ ฉะนั้นใครเป็นผู้เสียหายตามประมวลกกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา ยังไม่มี
เมื่อถามว่าผลการตรวจสอบพบว่าเป็นเสียงท่านจริงๆ จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า เอาอะไรมายืนยัน ตนยังยืนยันไม่ได้เลย ไม่มีอะไรตรวจสอบได้ ศาลไม่รับฟัง แต่ผู้เสียหายก็ไม่ใช่ตน และไม่ให้น้ำหนักในส่วนนี้ด้วย เพราะมนุษย์ร้อยเสียงมีเยอะ คดีเกิดขึ้นเป็นร้อยคดี ส่วนการประชุมครั้งหน้าจะมีการเข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ ตนไม่ขอตอบ เนื่องจากเป็นเรื่องคาบเกี่ยวกับคำสั่งห้ามไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ส่วนการห้ามครั้งนี้จะมีเหตุผลหรือนัยยะอะไรสำคัญต้องไปถาม ผบ.ตร.เช่นกัน
สำหรับคลิปเสียงดังกล่าวมีการเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา จำนวน 3 คลิป โพสต์โดย sand johnson หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเสียงคล้าย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ระหว่างประชุมเพื่อออกหมายค้นและจับกุมพระธัมมชโย ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยภายในคลิปแรกมีการพูดอย่างมีอารมณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของกองบังคับการตำรวจทางหลวงที่ไม่ยอมสกัดรถตู้ที่นำคนเข้าไปภายในวัดพระธรรมกาย ซึ่งได้ส่งสายสืบเฝ้าดูเหตุการณ์จนทราบว่ารถตู้คันดังกล่าวทะเบียน 10 วิ่งส่งคนทุกวัน แต่ตำรวจทางหลวงจับไม่ได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตและกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่าตำรวจทางหลวงเป็นพวกเดียวกับวัดพระธรรมกายหรือไม่ คลิปที่ 2 เป็นคลิปที่พูดถึงมาตรการสกัดกั้นประชาชนว่าต้องมีการใช้รถฉีดน้ำจำนวนมาก แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของเหตุการณ์ใด ส่วนคลิปที่ 3 เป็นการพูดถึงยุทธวิธีการเข้าไปภายในวัดพระธรรมกายจะต้องทราบว่าภายในวัดมีกี่อาคาร สมมติมี 20 อาคาร ในส่วนของทหารจะมีการจัดชุดกำลังเพื่อร่วมกันตรวจสอบ 20 ชุด แต่จะชุดละกี่คนก็ค่อยดูตามสมควร ส่วนอีกชุดคือชุดที่ใช้เคลียร์ประชาชนที่มานั่งขวางทางเดิน หรือขัดขวางเจ้าหน้าที่
