ดาบตำรวจวัย 45 หัวใจล้มเหลว เกิดอาการวูบระหว่างขับรถกระบะ ชนแท่งปูนแบริเออร์กั้นขอบทางเสียชีวิตบนถนนย่านบางบัวทอง
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 59 ร.ต.อ.กนก วังใจฟู ร้อยเวร สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะชนแท่งปูนแบริเออร์กั้นขอบทางผู้ขับขี่เสียชีวิต ที่บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานต่างระดับ ถนนกาญจนาภิเษก หมู่ 9 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนสาย 340 ขาเข้า มุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ญด 6645 กทม. สภาพยางข้างขวาแตก กันชนด้านซ้ายยุบ เกยอยู่บนแท่งปูนแบรีเออร์กั้นขอบทาง ภายในรถพบผู้เสียชีวิตสวมเสื้อยืดแขนสั้น สีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้น ทราบชื่อคือ ด.ต.ชูเกียรติ แสงฟ้า อายุ 45 ปี เป็น ผบ.หมู่ กก.1บก.ปส.4 บช.ปส. อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 5 ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว ภายในรถพบยาขยายหลอดลม ยาพ่น ปืนกล็อกขนาด 9 มม.พร้อมแมกกาซีน 2 ชุดมีกระสุนเต็ม ตามร่างกายไม่พบบาดแผลใดๆ
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์และถ่ายคลิปไว้ คือ นายไกรจักร แจ้งดี อายุ 27 ปี พนักงานคลังเซเว่นอีเลฟเว่น อยู่บ้านเลขที่ 35/3 หมู่ 6 ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ทราบว่าตนได้ขับรถไปรับแฟนมาจากหมู่บ้านใกล้กับ สภ.บางบัวทอง เพื่อจะไปซื้อของที่ห้างบิ๊กซี บางใหญ่ เมื่อมาถึงจุดที่รถคันดังกล่าวเริ่มเสียหลักประมาณ 300 เมตรจากจุดเกิดเหตุ ตนได้พยายามบีบแตรเรียกเพราะคิดว่าคนขับหลับใน รถคันเกิดเหตุขับไถลขอบทางมาตลอดจนมาชนกับแท่งปูนแบริเออร์ จึงได้จอดรถลงไปเพื่อช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ส่งรถพยาบาลมาช่วยเหลือ
โดยภาพจากคลิปเป็นภาพที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ ผู้ขับขี่ (นายไกรจักร) เห็นรถคันเกิดเหตุขับไถลกับแท่งปูนแบริเออร์ จึงได้พยายามบีบแตรเรียก โดยที่นายไกรจักรขับอยู่เลนซ้ายสุด แต่คนขับรถคันเกิดเหตุก็ไม่รู้สึกตัวและไม่หักรถออก จนในที่สุดนายไกรจักรได้บอกกับแฟนสาวให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้นรถคันเกิดเหตุได้ชนเข้ากับแท่งปูนแบริเออร์ขอบทาง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสภาพที่เกิดเหตุและตรวจภายในรถคันเกิดเหตุ พบยาหลายชนิดและตามร่างกายผู้เสียชีวิตไม่มีบาดแผล แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นคาดว่าหัวใจล้มเหลวทำให้เกิดอาการวูบระหว่างขับขี่ จากนั้นได้มอบร่างให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง