MGR Online - อดีตวิศวกรชาวเยอรมัน วัย 78 ปี ทำกระเป๋าสตางค์หล่นบริเวณจุดกลับรถห้าแยกปากเกร็ด อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเห็นคนจอดรถเก็บต่อหน้าจึงขับรถไล่ตามไปเอามามอบให้ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ติดต่อผู้เสียหายเดินทางเข้ารับทรัพย์สินคืน
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 23 พ.ย. 59 ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ร.ต.อ.จรยุทธ บุญทอง ร้อยเวรสอบสวน ได้เชิญนายแอนเดอร์สสัน อัลเบิร์ต (Andersson Albert) อายุ 78 ปี สัญชาติเยอรมัน อยู่บ้านเลขที่ 1/109 หมู่บ้านนวนิช ซอยเลี่ยงเมืองปากเกร็ด 13 ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อดีตวิศวกรด้านอิเล็กทรอนิกส์ เข้าพบเพื่อให้มารับกระเป๋าสตางค์ที่ภายในมีเงินสด 7,736 บาท บัตรเอทีเอ็ม พร้อมรหัสกดเงิน และบัตรประจำตัวประชาชน หลังจากนายชนินทร์ สาอาจ อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รหัสปากเกร็ด 006 และนายอานนท์ แสนกล้า อายุ 16 ปี ผู้ช่วย ได้ขับรถไล่ตามรถยนต์กระบะคันหนึ่งที่จอดรถเก็บกระเป๋าสตางค์ดังกล่าวไปจากบริเวณจุดกลับรถห้าแยกปากเกร็ด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 59 เวลา 11.40 น.
จากการสอบถามนายแอนเดอร์สสันทราบว่า ในวันเวลาเกิดเหตุได้ขับรถยนต์นิสสัน รุ่น March สีขาว ทะเบียน 3 กจ 9829 กทม. มาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาห้าแยกปากเกร็ด และได้เปิดท้ายรถเพื่อเก็บของโดยวางกระเป๋าสตางค์ไว้ตรงเหนือป้ายทะเบียน จากนั้นลืมว่าวางกระเป๋าไว้ปิดฝากระโปรงรถ คาดว่าฝากระโปรงน่าจะทับกระเป๋าไว้บางส่วนจนเมื่อมาถึงจุดกลับรถดังกล่าวรถได้แกว่งกระเป๋าจนหล่นพอดี เมื่อกลับถึงบ้านไม่พบกระเป๋าสตางค์ได้ขับรถกลับไปหาที่ห้างบิ๊กซีและได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแต่ไม่พบ จึงตัดใจว่าไม่พบแล้ว
ด้านนายชนินทร์ สาอาจ อาสากู้ภัยที่ตามไปนำกระเป๋าสตางค์มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 59 เวลา 11.40 น. ตนได้เข้าเวรอาสาที่บริเวณจุดปั๊ม ปตท.ห้าแยกปากเกร็ด มองเห็นจุดกลับรถมีรถติดจำนวนหลายคันและมีแบงก์ธนบัตรตกอยู่จึงได้เดินไปดู เห็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว จอดและมีผู้ชายเดินลงมาเก็บเงินและกระเป๋าดังกล่าวไป ตนได้พยายามเรียกให้จอดแต่รถคันดังกล่าวได้เคลื่อนออกไปก่อนจึงได้จดหมายเลขทะเบียน จากนั้นได้ขับรถติดตามไปโดยเปิดกล้องหน้ารถถ่ายวิดีโอตลอดทาง พร้อมประกาศออกไมค์ให้รถคันดังกล่าวหยุดรถและตามทันที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี เขตทุ่งสองห้อง กทม. จึงได้นำตัวผู้ขับขี่และเด็กรถส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมตรวจสอบทรัพย์สินภายในกระเป๋าสตางค์ ทั้งนี้ นายชนินทร์กล่าวต่อว่าครั้งนี้ถือเป็นการทำความดีเพื่อพ่อ ถึงแม้พ่อหลวงจะไม่อยู่แล้วตนก็จะทำดีต่อไป
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้ติดต่อไปที่สถานทูตเยอรมันเพื่อติดตามหาที่อยู่ของผู้เสียหายจนทราบที่อยู่ข้างต้น และได้ติดต่อให้ผู้เสียหายเดินทางเข้ารับทรัพย์สินคืนที่ สภ.ปากเกร็ด โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้ง 2 คน เป็นผู้ส่งคืนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งสองไม่ยอมรับค่าตอบแทน ผู้เสียหายจึงได้มอบกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงร่างกายให้ 1 กระเช้า พร้อมเงินสด 1,000 บาท เป็นค่าน้ำมันในการไล่ตามรถที่เก็บกระเป๋าไป