MGR Online - บิดากังขาลูกชายทำงานอยู่หาดใหญ่ แต่มาพบกลายเป็นศพหมกกองทรายในสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งที่เป็นพื้นที่ปิด
วันนี้ (15 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบศพนายสมจิตร ปทุมรัตน์ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี เสียชีวิตปริศนา ในกองทรายภายในไซต์งานก่อสร้างสนามบินสุวรรณ เฟส 2 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านของวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ นายพูล ปทุมรัตน์ อายุ 65 ปี บิดาของนายสมจิตร ผู้เสียชีวิต เดินทางมายัง สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกับญาติเพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งติดต่อขอรับศพบุตรชายกลับไปดำเนินการตามประเพณีที่บ้านเกิด
โดยนายพูลให้สัมภาษณ์ว่า บุตรชายมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงและดูแลวัวชนที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมาบุตรชายได้โทรศัพท์มาหาตนบอกว่าจะนั่งรถไฟกลับมาหาที่อุดรธานี ตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนกระทั่งมารับสายโทรศัพท์อีกครั้งคือวันที่ 14 ที่ผ่านมาจากทางตำรวจระบุว่าบุตรชายเสียชีวิตแล้ว หลังจากสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนเองและญาติๆ ยังคาใจสาเหตุของการเสียชีวิตของลูกชายอยู่มาก เนื่องจากลูกชายทำงานอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ แต่ทำไมศพมาพบภายในไซต์งานก่อสร้างของสนามบินได้ โดยจากการสอบถามเบื้องต้นพบว่าลูกชายมีบาดแผลจากการถูกของแข็งจำนวนหลายแห่ง ทั้งขาหัก ใบหน้าผิดรูป คล้ายกับถูกฆาตกรรมแล้วอำพรางศพใส่รถบรรทุกทรายมาทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุจึงอยากวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีให้ด้วยเพราะตนเองต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป
พ.ต.อ.มนเทียร เบ้าทอง ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตขึ้นรถไฟเดินทางจากอำเภอหาดใหญ่เมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา โดยปลายทางคือจังหวัดอุดรธานี แต่มาพบศพอีกครั้งคืนช่วงดึกของวันที่ 13 ที่ผ่านมาในกองทราย ขณะนี้แนวทางการสืบสวนมุ่งไว้ 3 ประเด็นคือ ผู้เสียชีวิตได้มาสมัครของทำงานใหม่กับบริษัทผู้รับเหมารายใดหรือไม่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในไซต์งานภายในสนามบิน ขณะที่ผู้เสียชีวิตเดินทางระหว่างวันที่ 10 ถึง 13 นั้นได้ไปหาเพื่อนหรือใครที่ใดบ้างหรือไม่ โดยในเบื้องต้นได้เรียกตัวคนขับรถบรรทุกทรายมาสอบปากคำทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งแกะรอยเส้นทางการเดินทางของผู้เสียชีวิตก่อนจะมาพบเป็นศพในที่เกิดเหตุ
ส่วนบาดแผลที่พบตามร่างกายของผู้เสียชีวิตนั้น จากการชันสูตรเบื้องต้นของแพทย์ รพ.บางพลี ระบุว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 ชั่วโมง คาดว่าน่าจะเสียชีวิตในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 13 ส่วนจะถูกฆาตกรรมอำพรางหรือไม่นั้นยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งจากสถาบันนิติเวช ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข้อมูล รวมถึงใช้เทคนิคทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำงานเพื่อเชื่อมต่อคดีนี้ทั้งก่อนเสียชีวิตและหลังเสียชีวิต เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าวให้ได้โดยเร็วที่สุด