MGR Online - พบผู้เสียชีวิต 3 รายคารถแท็กซี่ในปั๊มแก๊สย่านรามอินทรา ตรวจสอบร่างกายไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายและทรัพย์สินไม่สูญหาย เจ้าหน้าที่คาดมาจอดนอน แต่เกิดสูดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์มากไปจนเสียชีวิต
วันนี้ (5 พ.ย.) เวลา 09.30 น. ร.ต.ท.ปองคุณ ทองบัว รอง สว.(สอบสวน) สน.โคกคราม รับแจ้งเหตุมีผู้นอนเสียชีวิตหลายรายภายในรถยนต์แท็กซี่ เหตุเกิดภายในปั๊มแก๊สแอลพีจี ชื่อพีเอพีแก๊ส ตั้งอยู่ถนนรามอินทรา กม.8 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ รรท.ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอมปทุมวัน รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม พ.ต.ท.สง่า วงศ์นิคม สวป สน.โคกคราม รรท.รองผกก.ป.สน.โคกคราม ร.ต.อ.ชวลิต ตรีหิรัญ รอง สวป.สน.โคกคราม ฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณด้านข้างคาร์แคร์ พบรถยนต์แท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทม 7098 กรุงเทพมหานคร จอดติดเครื่องยนต์อยู่โดยกระจกบานซ้ายข้างคนขับแง้มเปิดออกเล็กน้อย และยางล้อรถฝั่งขวาด้านหลังแบนราบ จากการตรวจสอบภายในพบผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย ประกอบด้วย เบาะนั่งฝั่งคนขับพบศพนายคฑาวุธ ใจน้อย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 1 ต.บัวคำ อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด สภาพนอนตะแคงข้างคว่ำหน้า สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ บริเวณเบาะหน้าข้างคนขับพบศพ น.ส.จันทิมา งามบุษกรโสภณ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 305/1 หมู่ 11 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สภาพนอนเอนเบาะน้ำลายฟูมปาก สวมสุดดำ และเบาะหลังพบศพ น.ส.รัตนา เด่นวิภัยพนา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/1 หมู่ 11 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สภาพนอนเหยียดตรงน้ำลายฟูมปาก โดยทั้งหมดไม่พบบาดแผลและไม่มีทรัพย์สินสูญหายแม้แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน น.ส.อุดร วงษาลี อายุ 39 ปี ให้การว่า ตนประกอบอาชีพเป็นพนักงานล้างรถภายในปั๊มดังกล่าวมานานกว่า 5 ปี ปกติจะมีรถแท็กซี่เข้ามาจอดบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่เป็นประจำเนื่องจากเป็นที่มืดไม่มีแสงไฟส่องสว่าง โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ขณะที่ตนกำลังจัดร้านเพื่อให้บริการลูกค้าตามปกติพบรถยนต์แท็กซี่คันเกิดเหตุจอดติดเครื่องยนต์อยู่ เมื่อผ่านไปได้สักระยะเถ้าแก่ได้เดินไปเคาะเรียกที่กระจกรถเนื่องจากคาดว่ามาจอดนอนรอเพื่อจะล้างรถ แต่เคาะเรียกเท่าไหร่ผู้ที่อยู่ภายในก็ไม่ยอมตอบสนอง จนกระทั่งหันไปพบผู้หญิงนอนน้ำลายฟูมปากไม่หายใจเห็นท่าไม่ดีจึงตัดสินใจแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบก่อนพบว่าทั้งหมดกลายเป็นศพดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สราวุธกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าคนขับรถคันเกิดเหตุเข้ามาจอดนอนติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ตั้งแต่ช่วงประมาณตี 3 คาดว่าเหน็ดเหนื่อยระหว่างการเดินทาง โดยสภาพศพทั้งหมดไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย และไม่มีทรัพย์สินสูญหายแม้แต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุของการเสียชีวิตเกิดจากการสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เนื่องจากตามตัวผู้เสียชีวิตมีรอยช้ำคล้ายผู้สูดดมก๊าซเกินขนาด แต่ก็ไม่พบว่าถังแก๊สที่ติดอยู่ภายในรถมีรอยรั่วซึม หลังจากนี้จะนำรถส่งไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมทั้งนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนส่งมอบให้ทางญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป