MGR Online - เพื่อนบ้านแจงสาเหตุถูก “เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม” ชกหน้าก่อน เผยไม่มีแรงไปสู้นักมวยจึงคว้ามีดปกป้องตัวเอง รับปมทะเลาะเรื่องสุนัข ด้านตำรวจรอสอบเพิ่มเติม ยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
วันนี้ (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการชี้แจงจาก น.ส.ธัญรัตน์ ดิลกรัตติพัฒน์ อายุ 27 ปี คู่กรณีที่มีข่าวว่า ร่วมกับ นางวิมลนันท์ ดิลกรัตติพัฒน์ มารดา ใช้มีดดาบฟันศีรษะ และมือของ นายสุเทพ หวังมุก อายุ 40 ปี หรือ เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม อดีตนักมวยชื่อดังจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ว่า ต้นเหตุทั้งหมดเกิดจากเมื่อประมาณกลางปีแม่ตนจูงสุนัขเพื่อจะให้ไปฉี่ในป่าหญ้าข้างหมู่บ้าน แล้วต้องผ่านหน้าบ้านของนายสุเทพ ตอนนั้นลูกสาวของนายสุเทพ อายุประมาณ 5 ขวบ กำลังวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้าน แล้วก็จะเอาไม้มาตีสุนัขของแม่ แม่จึงพูดห้ามปราม เด็กคงไปบอกนายสุเทพ กับภรรยา จนเกิดเป็นเรื่องราวบาดหมาง และนายสุเทพชอบพูดจาเสียดสีเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด
จนกระทั่งช่วงบ่ายวานนี้ (22 ต.ค.) นายสุเทพขับรถผ่านหน้าบ้านแล้วเปิดกระจกยกปืนออกมาขู่แม่ตนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน แม่ตนก็บอกไปว่าถ้าแน่จริงก็ยิงเข้ามาเลย แต่นายสุเทพก็ไม่กล้า แล้วขับรถออกไป จนมาช่วงเย็นนายสุเทพได้มายืนด่าแม่ตนที่หน้าบ้าน แล้วเข้ามาในเขตบ้านชกหน้าแม่ แล้วแม่ตนก็คว้ามีดดาบออกมาป้องกันตัวฟันไปที่นายสุเทพ 2 ครั้งจนได้รับบาดเจ็บ แต่นายสุเทพยังไม่ยอมหยุด ลากแม่ตนไปกระทืบที่หน้าบ้านจนได้รับบาดเจ็บน่วมทั้งตัว ตนก็วิ่งตามไปช่วย แต่ก็ถูกนายสุเทพทำร้ายไปด้วย จนกระทั่งมีชาวบ้านมาช่วยห้ามปราม ตนยืนยันได้เลยว่าแม่ตนถูกทำร้ายก่อน แม่ตนเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปต่อสู้กับนักมวย หยิบอะไรได้ก็คว้าเอามาป้องกันตัวก่อน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวนจะนัดให้ไปแจ้งความที่ สน.ธรรมศาลา
ด้าน “เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม หรือ แวฮามะ” กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่คู่กรณีกล่าวอ้างว่าเกิดจากความขัดแย้งเรื่องที่จอดรถ หรือสุนัขมาขับถ่ายที่หน้าบ้านนั้นไม่จริง เกิดจากปมทะเลาะกันมานานแล้ว โดยวันเกิดเหตุวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนเดินทางกลับจากการไปสอนมวย แต่เจอกับเพื่อนบ้านรายนี้ และมีปากเสียงกัน ก่อนที่คนเป็นแม่จะวิ่งออกมาพร้อมมีดดาบ
ทั้งนี้ เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม ยังเปิดเผยอีกว่า เหตุที่ตนโดนฟันนั้นไม่อยากสู้กับผู้หญิง จึงตัดสินใจวิ่ง ทว่าดันหกล้มเสียหลัก และยกมือขึ้นรับมีดจึงได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ คู่กรณีที่อ้างว่าตนมีปืนนั้น ขอยืนยันไม่เป็นความจริงแน่นอน เนื่องจากหากมีปืนจริงตนคงลั่นไกไปแล้วเพราะตนต้องยิงเพื่อป้องกันตัวแน่ๆ และขอยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่มีการยอมความ จะขอดำเนินคดีจนถึงที่สุดแน่นอน
ด้าน ร.ต.อ.ชวพล คล่องยุทธ รอง สว. (สอบสวน) เจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าเกิดการทะเลาะวิวาทกัน มีพยานเห็นเหตุการณ์หลายคน ใครจะให้การอย่างไรก็ได้ ซึ่งขณะนี้นายสุเทพยังไม่ออกจากโรงพยาบาล และยังให้การไม่ได้ ต้องสอบสวนฝ่ายนางวิมลนันท์ ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเสียก่อน ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย