MGR Online -191 แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม รวม 9 ราย ทั้งครอบครองอาวุธฯ ยาเสพติดและคดีค้างเก่า
วันนี้ (7ต.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบก.สปพ. พร้อมด้วยพ.ต.อ.ภีมเสน ขจรประศาสน์ พ.ต.อ.เกียรติพงษ์ นารา พ.ต.อ.วรชิต กาญจนะเสน พ.ต.อ.นิติพันธ์ โรหิโตปการ พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอางค์ พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.ธนกฤต บุญเจริญ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ พ.ต.ท.พรพรหม จักษุรักษ์ พ.ต.ท.รัฐชยุตม์ วัชรโกมลมาศ รอง.ผกก.สายตรวจ รรท.สว.งานสายตรวจ 1 พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ สว.งานสายตรวจ 2 พ.ต.ต.ปียรัช เวสสะโกศล สว.งานสายตรวจ 3
ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สายตรวจปฏิบัติการพิเศษ เร่งรัดสืบสวนปราบปรามคดียาเสพติด จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ คดีเกี่ยวกับความมั่นคง รวมถึงคดีที่น่าสนใจซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยผลการระดมกวาดล้างครั้งนี้สามาถจับกุมผู้ต้องหาในคดีต่างๆ รวม 9 ราย
แบ่งเป็นคดีเกี่ยวอาวุธปืน ประกอบด้วย นายศักดิ์คุณ สินสถิตธรรม อายุ 25 ปี นายนพรัตน์ ทองกำพร้าอายุ 23 ปี นายจรินทร์ แตงอ่อน อายุ 61 ปี และนายวิเชียร ไตรทิพย์รัตน์ อายุ 51 ปี ในข้อหา "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต"
คดีเกี่ยวกับยาเสพติด ประกอบด้วย นางสาวกันยา ปั้นห้าว อายุ 31 ปี นายวชิระ ขวัญหีด อายุ 21 ปี และนายธีรวัฒน์ แม้นสุรินทร์ อายุ 20 ปี ในข้อหา "มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย" และ"มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา,พืชกระท่อม) ไว้ในความครอบครองและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย"
และคดีอื่นๆ ประกอบด้วยนายณฐฤษต์ธรณ์ สีหาหยัก อายุ 37 ปี ในข้อหา "ยักยอกทรัพย์" และนายฐิติพงษ์ ศรีทอง อายุ 25 ปี ในข้อหา "ฉ้อโกง"
ทั้งนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางในคดีดังกล่าว ประกอบด้วย ปืนสั้นลูกโม่ ขนาด .32 มม. จำนวน 1 กระบอก ปืนสั้นลูกโม่ ขนาด .38 มม. 2 กระบอก ปืนสั้นแม็กกาซีน ขนาด .45 มม. 1 กระบอก ปืนไทยประดิษฐ์ 4 กระบอก ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน ขนาด .45 มม. 788 นัด และขนาด .32 มม. 2 นัด มีดยาว 1 ฟุต 2 เล่ม ยาบ้า 202 เม็ด ใบกระท่อมสด 1,160 ใบ น้ำกระท่อม 6 ลิตร และกัญชาอัดแท่ง 39 กรัม
ด้านพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ ยังคงดำเนินการปฏิบัติหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง โดยบรูณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันยังมีการปรับปรุงศูนย์รับแจ้งเหตุ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้ง่ายและสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วต่อไป