MGR Online - รอง ผบช.ก.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม แถลงผลระดมกวาดล้างตามปฏิบัติการ “Black Weapons online” ทลายเครือข่ายนักค้าอาวุธปืนออนไลน์ 76 จุดพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศ เบื้องต้นจับกุมผู้ต้องหา 20 ราย พร้อมยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก
วันนี้ (17 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย พ.ต.อ.มนตรี แป้นเจริญ พ.ต.อ. สุวัฒน์ แสงนุ่ม พ.ต.อ.อรรณพ รัตนอุบล รอง ผบก.ป. ร่วมกันแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาวุธปืนและวัตถุระเบิด ตามแผนปฏิบัติการ Black Weapons online “ทลายเครือข่ายนักค้าอาวุธปืนออนไลน์”
พล.ต.ต.สมหมายกล่าวว่า สืบเนื่องจากทางรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจ บก.ปอท.ร่วมกันสืบสวนหาข้อมูลขบวนการซื้อขายอาวุธปืนผ่านทางอินเทอร์เน็ต หลังปรากฏข้อมูลว่ากลุ่มนักเรียนมีการสั่งซื้ออาวุธปืนผ่านทางโซเซียลมีเดียและนำมาก่อเหตุ ทั้งนี้ จากการสืบสวนเชิงลึกทำให้ชุดสืบสวนพบพฤติกรรมว่ากลุ่มนักเรียนนักศึกษาจะซื้อขายอาวุธปืนผ่านทางอินเทอร์เน็ตก่อนที่จะใช้ไปรษณีย์เป็นช่องทางในการขนส่งสินค้า จากนั้นจะโอนเงินเพื่อชำระสินค้าผ่านบัญชีธนาคาร และยังพบอีกว่าเครือข่ายผู้ค้าและลูกค้ามีมากกว่า 164 ราย จึงได้ทำการกำหนดกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 76 จุดทั่วประเทศ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางตำรวจกองปราบปราม คอมมานโดกองปราบปราม และบก.ปอท. ตลอดจนตำรวจในสังกัด บช.ก.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว
พล.ต.ต.สมหมายกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ยังสั่งการให้ตำรวจคอมมานโดกองปราบปรามนำรถวิทยุสายตรวจลงพื้นที่บริเวณสถานศึกษาที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม ทั้งในพื้นที่นครบาลและปริมณทลซึ่งมีกว่า 14 สถาบัน รวมทั้งตรวจค้นกลุ่มนักเรียนที่เป็นหัวโจกมาปรับทัศนคติ และเป็นแนวร่วมในการทำงานกับเจ้าหน้าที่ ตลอดจนบันทึกประวัติกลุ่มนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเพื่อเป็นแนวทางสืบสวนป้องกันปัญหานักเรียนตีกันระหว่างสถาบัน
ด้าน พล.ต.ต.ชวลิตกล่าวว่า นอกจากนี้ทาง บช.ก.ได้สั่งการให้ตำรวจในสังกัด สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งรูปแบบบุคคลและขบวนการ ซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาถึงเดือนกันยายน สามารถจับกุมผู้ต้องหา 115 ราย
ส่วน พ.ต.อ.สันติกล่าวว่า จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนทั้งหมดกว่า 141 กระบอก เป็นอาวุธปืนมีทะเบียน 32 กระบอก และไม่มีทะเบียน 109 กระบอก ในจำนวนนี้มีอาวุธปืนสงครามร้ายแรง เช่น ปืนอาก้า (AK47) จำนวน 4 กระบอก ปืนเอชเค 33 (HK33) จำนวน 1 กระบอก ปืนเอ็ม 16 จำนวน 5 กระบอก อุปกรณ์ส่วนควบ เครื่องกระสุนปืนกว่า 2 พันนัด ทั้งนี้ยังจับกุมผู้ต้องหาได้มากถึง 20 ราย รวมทั้งสามารถขยายผลเครือข่ายที่ซื้อขายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายเชื่อมโยงเป็นจำนวนมาก โดยอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป. มอบหมายสั่งการให้ พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง พ.ต.ท.รัชภูมิ กุสุมาลย์ พ.ต.ท.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผกก.1 บก.ป. ระดมชุดสืบสวนลงพื้นที่ตามแผนปฏิบัติการ Black Weapons online “ทลายเครือข่ายนักค้าอาวุธปืนออนไลน์” ทั้งสิ้น 8 จุด
โดยจุดที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย พ.ต.ต.ศราวุธ จันต๊ะวงศ์ สว.กก.1 บก.ป นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 175/59 ลงวันที่ 15 ก.ย. 2559 ตรวจค้นบ้านเลขที่ 499/123 ซ.โรงสี ถ.นางลิ้นจี่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียว เนื้อที่ประมาณ 30 ตร.ม. เจ้าหน้าที่พบ นายฐิรเมศวร์ พลอยจินดา อายุ 29 ปี บุคคลตามเป้าหมายของทางเจ้าหน้าที่กำลังนอนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นก่อนเข้าทำการตรวจสอบ จากการตรวจค้นนั้นเจ้าหน้าที่พบวิทยุสื่อสาร สีดำ 1 เครื่อง บริเวณชั้นวางทีวี และน้ำยาขัดรางปืนจำนวน 1 ขวด บริเวณตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจฉี่นายฐิรเมศวร์ไม่พบสารเสพติด และอาวุธปืนเถื่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดวิทยุสื่อสารและน้ำยาขัดรางปืน
สอบสวนเบื้องต้นนายฐิรเมศวร์ให้การว่า ตนได้ซื้อปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์และลูกกระสุนขนาด .22 1 กล่อง ผ่านทางอินเทอร์เน็ตเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาในราคา 7000 บาท ต่อมาเมื่อตนทราบข่าวว่าคนขายอาวุธปืนให้ตนถูกวิสามัญฯ ด้วยความกลัวตนจึงรีบขายปืนให้กับเพื่อนชื่อนายหลง ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ในราคา 7,000 ไปตอนกลางปี 2559 ส่วนอาวุธปืนที่ตนซื้อมานั้นเพียงนึกสนุกและซื้อมายิงฉลองตอนงานวัดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
จุดที่ 2 พ.ต.ต.สมเดช สาระบรรณ์ สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 350/2559 ลงวันที่ 17 ก.ย. 59 เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 102 บ้านพรหมมาอพาร์ตเมนต์ ซอยพหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม ห้องพักของจ่าอากาศโท ตวงสิทธิ์ พูลถาวร อายุ 26 ปี หลังพบหลักฐานว่าเจ้าตัวเคยสั่งซื้ออาวุธปืนจากนายไพศาล คำไทย อายุ 32 ปี พ่อค้าอาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ตที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมไปเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา
จากการตรวจค้นภายในห้องพัก รวมทั้งภายในรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 5 กฌ 3880 กรุงเทพฯ และจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีดำ-ทอง หมายเลขทะเบียน 4 กธ 8868 กรุงเทพฯ ไม่พบอาวุธปืน หรือสิ่งผิดกฎหมายชนิดอื่นแต่อย่างใด จากการสอบสวนเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธว่าไม่เคยสั่งซื้ออาวุธปืนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจปัสสาวะ ตรวจเก็บดีเอ็นเอ ก่อนทำบันทึกตรวจค้นไว้เป็นหลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบ
จุดที่ 3 พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม รอง ผกก.1 บก.ป. ร.ต.อ.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ป. นำหมายค้นจากศาลอาญารัชดา ที่ 372/2559 ลงวันที่ 16 ก.ย. 59 เข้าตรวจค้น c.c.k. แมนชั่น เลขที่ 83/13 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จากการตรวจค้นห้องพักเลขที่ 405 ชั้นที่ 4 ของนายวสันต์ หล้าสุด อายุ 27 ปี อดีตทหารเกณฑ์สังกัดกองทัพเรือ ภายในตู้เสื้อผ้าพบสิ่งเทียมอาวุธปืนยาว รุ่น M16 (บีบีกัน) จำนวน 1 กระบอก สิ่งเทียมอาวุธปืนยาว รุ่น M4 (บีบีกัน) จำนวน 1 กระบอก เสื้อเกราะกันกระสุนจำนวน 2 ตัว อุปกรณ์ติดตั้งปืน เช่น ลำกล้อง คันท้ายปืนยาว แม็กกาซีน และวิทยุสื่อสารจำนวน 2 เครื่อง ใบอนุญาตพกพาและครอบครองอาวุธปืน ระบุชื่อ ร.ท.วสันต์ หล้าสุด พร้อมเอกสารจำนวนหนึ่งจึงยึดไว้ตรวจสอบ
จากการสอบสวนนายวสันต์ให้การว่า อุปกรณ์ทั้งหมดตนสั่งซื้อมาจากทางอินเทอร์เน็ต เนื่องจากตนเองชื่นชอบอาวุธปืนเป็นการส่วนตัว และก่อนหน้านี้เคยสั่งซื้ออาวุธปืนสั้นของจริงผ่านทางทางอินเทอร์เน็ตกับผู้ค้ารายหนึ่งแต่ไม่ได้ของ โดยผู้ค้ากลับส่งก้อนหินมาให้ในกล่องพัสดุแทน