MGR Online - เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เปิดตู้เซฟ “ศดายุ” หรือ โน้ต เหลืองประดับใจ หัวหน้าแก๊งก้านยาว อดีตสมาชิกเครือข่ายแก๊งโอรส หลังตำรวจ ปส. ทหาร ศรภ. ทลายปาร์ตีเลี้ยงเอเยนต์รายย่อย พบเงินสด 60 ล้านบาท อาวุธปืน 10 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน
วันที่ 15 ก.ย. 2559 เวลาประมาณ 13.00 น. ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ปปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบช.ปส.3 พ.ต.อ.ณัทณพงศ์ หลิ่มวิรัตน์ ผกก.1 บก.ปส 3 และ จนท.ทหาร ศรภ. นำโดย พ.อ.ประดิยุทธ กลิ่นศรีสุข ผอ.กอง 12 ศรภ.บก.ทท. พ.ท.ณปพงศ์ธร วังตาล หน.ชป.กอง 12 ศรภ. นำเจ้าหน้าที่ทหาร ศรภ. เปิดตู้เซฟที่ตรวจยึดได้คอนโดลุมพินี ปาร์ค ย่านรัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นคอนโดที่ นายศดายุ หรือ โน้ต เหลืองประดับใจ ได้เปิดเช่าไว้เพื่อเก็บตู้เซฟดังกล่าว พบเงินสดจำนวน 60 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 210 ล้านบาท พร้อมทั้งปืนอีกจำนวน 10 กระบอก ซึ่งเป็นปืนกลเก็บเสียง
จากกรณีที่ จนท. เข้าจับกุมเอเยนต์ได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่เขาใหญ่ ขณะมาประชุมเครือข่ายปาร์ตียาเสพติด โดยทางเจ้าหน้าที่ ปส. ติดตามมากว่า 6 เดือน เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายศดายุ หรือ โน้ต เหลืองประดับใจ เคยเป็นเครือข่ายของแก๊งโอรส ที่เคยรุ่งเรืองก่อนหน้านี้ ก่อนแยกตัวออกมาตั้งแก๊งก้านยาว โดยมีการค้ายาเสพติด มีนายโน้ตเป็นหัวหน้าแก๊งใหญ่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยเจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางยาบ้า 172,000 เม็ด ยาไอซ์ 11 กก. ยาเคตามินชนิดน้ำ 520 ขวด ยาอี 1,450 เม็ด กัญชา 1 กก. ยาเคตามินชนิดผง น้ำหนัก 480 กรัม เคตามินชนิดเกล็ด 1 ซอง เงินสดประมาณ 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเครื่องประดับเพชร - ทองรูปพรรณ อาวุธปืนยาว - สั้น เครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ยาปลุกเซ็กซ์ 1 คันรถบรรทุก 6 ล้อ รถยนต์และอื่น ๆอีกจำนวนมาก มูลค่ากว่า 150 ล้าน
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวมีการสืบสวนนานกว่า 6 เดือน พบว่า กลุ่มนายศดายุ เคยเป็นเครือข่ายของแก๊งโอรส ที่เคยรุ่งเรืองก่อนหน้านี้แล้ว แต่แยกมาตั้งแก๊งก้านยาว ซิ่งจักรยานยนต์ตามท้องถนน และมีการค้ายาเสพติดย่านนนทบุรี ย่านฝั่งธนบุรี และปริมณฑล มีพฤติกรรมลักลอบค้ายาเสพติด โดยติดต่อซื้อยาเสพติดจากผู้ค้าฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และนำมากระจายในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง จากการเฝ้าสังเกตการณ์ พบว่า กลุ่มผู้ค้ายารายนี้ มีการแบ่งกลุ่มการทำงานกันอย่างชัดเจน ก่อนจะนำเงินที่ได้มาไปเที่ยวเตร่ แล้วนัดรวมตัวกันตามต่างจังหวัด
กระทั่งวันที่ 13 ก.ย. 59 เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายศดายุ พร้อมพวกจัดรวมตัวกันของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา จึงสนธิกำลังปิดล้อมจับกุม แต่กลุ่มของผู้ต้องหาไหวตัวทัน ได้พยายามขับรถหลบหนีสวนกับรถเจ้าหน้าที่ และยิงต่อสู้กัน กระทั่งถึงช่วง กม. ที่ 17 ถนนมิตรภาพ รถของเจ้าหน้าที่สามารถสกัดคนร้ายได้ 1 ราย แต่คนร้ายทำการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ พ.ต.ท.ทิวาพงษ์ พลูโต สว.งานการข่าว บก.ขส.บช.ปส. ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่กลางหลัง และกระสุนปืนเฉี่ยวเข้าที่เบ้าตาขวา เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำส่ง รพ.เกษมราษฎร์ ซึ่งขนาดนี้อาการปลอดภัย และอยู่ระหว่างการรอผ่าตัด ส่วนคนร้ายถูกวิสามัญหนึ่งรายทราบชื่อ นายสุรศักดิ์ บุญทับ และหลบหนีไปได้อีกหนึ่งราย ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลเข้าตรวจสอบที่พักของนายศดายุ ย่านจ.นนทบุรี สามารถยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก
