MGR Online - เปิดใจเจ้าของคลิปโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย “ขอน้ำใจผู้ร่วมทาง เพื่อ 1 ชีวิตให้ถึงมือแพทย์ ขอบคุณคันหน้าที่ช่วยขยับคันเดียว เห็นแล้วอย่านิ่งเฉย ต้องช่วยกันหลบ เพราะวันนั้นอาจเป็นคุณ” ไม่มีรถหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินนำส่งผู้ป่วยอาการหายใจติดขัด ผู้ป่วยต้องถึงมือหมอให้เร็วที่สุด
วันนี้ (10 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Bellza Mosaic เพื่อสอบถามเกี่ยวกับกรณีที่โพสต์คลิปวิดีโอในโซเชียลมีเดีย และได้เขียนข้อความว่า “ขอน้ำใจผู้ร่วมทาง เพื่อ 1 ชีวิตให้ถึงมือแพทย์ ขอบคุณคันหน้าที่ช่วยขยับคันเดียว เห็นแล้วอย่านิ่งเฉย ต้องช่วยกันหลบ เพราะวันนั้นอาจเป็นคุณ” เป็นการโพสต์เกี่ยวกับรถพยาบาลฉุกเฉินคันหนึ่งเปิดสัญญาณไซเรนเพื่อขอทาง แต่ไม่มีรถหลีกทางให้มีเพียงรถคันด้านหน้าเพียงคันเดียว ผู้โพสต์คลิปดังกล่าวจึงตัดสินใจหักรถหลายรอบแล้วเลี้ยวหลบลงข้างทาง รถพยาบาลจึงสามารถที่จะเบี่ยงออกด้านซ้ายแล้วขับย้อนศรไปโรงพยาบาลได้ทัน
ที่บ้านเลขที่ 1/118 หมู่ 9 ซอยเลี่ยงเมืองปากเกร็ด 29 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบนายศนพพล ยิ้มเฟื่อง อายุ 24 ปี เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง C-1607 กทม.เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Bellza Mosaic เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 7 ก.ย. 2559 เวลา 15.00 น. ขณะกำลังขับรถเพื่อจะกลับบ้านโดยขับมาตามถนนติวานนท์เพื่อมุ่งหน้าถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อผ่านบริเวณห้าแยกปากเกร็ดได้ยินเสียไซเรนรถพยาบาลได้พยายามที่จะหลบให้ แต่ไม่มีรถคันไหนหลบ ทำให้ตนตัดสินใจหักรถออกไปช่องจราจรซ้ายและหลบลงข้างทาง แต่รถพยาบาลก็ไม่สามารถขับต่อไปได้ ทำให้รถพยาบาลขับออกมาทางช่องซ้ายแล้วขับย้อนไปทางด้านหน้าไฟแดง
ขณะเกิดเหตุตนคิดแต่เพียงว่ารถพยาบาลเข้าต้องฉุกเฉินจริงๆ ผู้ที่ป่วยอยู่ในรถพยาบาลต้องไปให้ถึงมือหมอให้เร็วที่สุด ถ้าปล่อยเวลาให้ยืดยาวกว่านี้คงไม่ส่งผลดีต่อผู้บาดเจ็บ ตนคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง อยากบอกคนที่ใช้รถใช้ถนนว่าถ้าเจอรถฉุกเฉินแบบนี้ควรจะหลบและทำในสิ่งที่เราควรทำ และถึงตอนนี้ตนยังไม่ทราบว่าผู้ป่วยอาการเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเทศบาลนครนนทบุรี นายภานุพงศ์ เผื่อนพงษ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/25 ถนนนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ผู้ที่อยู่ในรถพยาบาลของเทศบาลนครนนทบุรี ในวันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุรับผู้ป่วยอาการหายใจติดขัดมาจากซอยนนทบุรี 42 เพื่อไปส่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ ในขณะนำส่งอาการค่อนข้างหนัก ตอนนั้นที่รถไม่หลบให้ทางตนรู้สึกว่าหมดหวัง หลังจากรถแจ๊ซหลบให้แล้วเราก็พยายามแทรกออกไป และจากภาพเหตุการณ์ที่หักออกไปทางซ้ายแล้วย้อนไปทางไฟแดง ตนรู้ว่าอันตรายแต่ก็ต้องทำเพราะคิดถึงผู้ป่วยอันดับแรกเนื่องจากอาการค่อนข้างหนัก ต้องขอบคุณน้องคนที่หลบทางให้ที่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ อยากขอความร่วมมือให้ผู้ที่ใช้ถนนเมื่อเห็นรถที่มีสัญญาณไฟเพราะเราไม่รู้ว่าผู้ป่วยที่อยู่ในรถอาจจะเป็นญาติของคุณก็ได้
จากเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนนทบุรี สามารถนำผู้ป่วยส่งถึง รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งเมื่อถึง รพ.แพทย์ได้ติดเครื่องช่วยหายใจให้ผู้ป่วยทันทีเนื่องจากอาการหนัก กรณีนี้ให้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีงามของคมไทยที่ยังมีเหลือให้เห็นอยู่