MGR Online - พล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร.บินขอหมายจับอีก 1 มือบึ้มหัวหิน พบเคยก่อเหตุและถูกออกหมายจับมาแล้วหลายคดี จ่อออกหมายจับอีก 2 ที่กระบี่
วันนี้ (8 ก.ย.) ที่กองบินตำรวจ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีก่อเหตุระเบิด และวางเพลิงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ พร้อมด้วย พล.ต.ท.เดชา ชวยบุญชุม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางไปยังศาลมณฑลทหารบกที่ 15 จ.เพชรบุรี เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาวางระเบิดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย ในข้อหามีวัตถุระเบิดที่ใช้ในราชการสงคราม ที่นายทะเบียนไม่อนุญาต และพยายามวางเพลิงฯ
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางไปขอศาลทหารจังหวัดเพชรบุรีให้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มจำนวน 1 ราย ในข้อหามีวัตถุระเบิดฯ และพยายามวางเพลิง ซึ่งการออกหมายจับเป็นการออกตามภาพจากกล้องวงจรปิด ภายหลังผลนิติวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบส่วนสูง และลักษณะอื่นๆ พบว่าตรงกันกับบุคคลในภาพ โดยยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ แต่พบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุในพื้น 3 จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งเคยถูกออกหมายมาแล้วหลายคดี
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าการออกหมายจับผู้ต้องหารายอื่นๆ เพิ่มเติมนั้นขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะจังหวัดพังงา และกระบี่ คาดว่าเร็วๆ นี้จะสามารถขอหมายจับเพิ่มเติมได้อีก 2 ราย ขณะที่มูลเหตุจูงใจนั้นเชื่อว่าเป็นการก่อกวน แต่ไม่ใช่เรื่องการแบ่งแยกดินแดน หรือเกี่ยวโยงกับการเจรจาพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ ส่วนจะมีผู้จ้างวานหรือไม่นั้นตนยังไม่สามารถระบุได้
ส่วนกระแสข่าวที่กลุ่มบีอาร์เอ็นออกมายอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งเหตุคาร์บอมบ์หน้าโรงเรียนตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ในส่วนของการข่าวนั้นตนไม่ทราบ แต่ในสำนวนยังไม่พบข้อมูล และไม่พบหลักฐานอื่นๆ ที่เชื่อว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นเข้ามาเกี่ยวข้องก้บเหตุระเบิดดังกล่าว
เมื่อถามถึงการสืบสวนหากลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์หน้าโรงเรียนตาบา อ.ตากใบนั้น อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน แต่ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่หวังผลให้ประเทศชาติเสียหาย แต่ไม่ใช่การยกระดับการก่อเหตุ เพราะเหตุความรุนแรงที่มีผลกระทบมากกว่านี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ขณะที่การวางมาตรการป้องกันเหตุความรุนแรง ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้มีการปฏิบัติอย่างเข้มงวดมาตลอด รวมทั้งกำชับให้ออกแผนการตรวจค้นตามเส้นทางระบบสาธารณะทั้งหมด รวมทั้งให้มีการบูรณาทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง