MGR Online - เด็กปั๊มเชลส์ ปากซอยตากสิน 14 ผวา ชายหัวเกรียนนำกระเป๋าต้องสงสัยวางหน้าปั๊มก่อนหายตัวไปกับเพื่อน แจ้งเจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าตรวจสอบพบเสื้อผ้า กล่องโทรศัพท์ น้ำพริก ด้าน ตร.คาดน่าจะลืมไว้ หากหวังสร้างสถานการณ์จ่อยกระดับเพิ่มความเข้มงวด
วันนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.45 น. ร.ต.อ.สุพจน์ แรกไธสง รอง สว.(สอบสวน) สน.บุคคโล รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณด้านหน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ ปากซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 14 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.จิณวัตร ก้อนทองดี ผกก.สน.บุคคโล พ.ต.ท.ปองพล เลามีชัยเจริญ สวป.สน.บุคคโล กำลังฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี)
ที่เกิดเหตุพบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ สีดำ ยี่ห้ออัพไรส์ (Uprise) ขนาด 50x60 ซม.วางอยู่บริเวณเก้าอี้ไม้ด้านหน้าปั๊มน้ำมันดังกล่าว ลักษณะต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงนำยางรถยนต์มาวางรอบกระเป๋าไว้แล้วปิดให้บริการเติมน้ำมัน และปิดการจราจรถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินฝั่งมุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ช่วงด้านหน้าปั๊มน้ำมันเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีจึงเข้าไปทำการตรวจสอบ พบว่ากระเป๋าใบดังกล่าวบรรจุเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง กล่องโทรศัพท์ 1 กล่อง น้ำพริก 1 กล่อง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เมื่อสถานการณ์โดยรวมปลอดภัยแล้ว จึงเปิดบริการปั๊มน้ำมันและการจราจรให้เข้าสู่ภาวะปกติ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
จากการสอบสวนนายสมชาย ประกิตติกุล อายุ 51 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้างหน้าปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ วิน ว.พินิจ เขตธนบุรี เบอร์ 12 ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเห็นชาย 1 คน อายุประมาณ 40 ปี ความสูง 170 ซม. ตัดผมเกรียนคล้ายทหาร รูปร่างผอมผิวสีดำแดง สวมเสื้อลายสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ รองเท้าหนัง นอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ด้านหน้าปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ โดยมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ปลายเท้า ต่อมามีชายอีกคนอายุไล่เลี่ยกัน สูง 165 ซม.ไว้ผมรองทรง รูปร่างผอมผิวดำ สวมเสื้อลายสีแดง กางเกงยีนส์ เดินมาสะกิดปลุกชายคนแรกที่นอนอยู่ ก่อนที่ทั้งสองจะคุยกันอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินออกไปมุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ โดยที่ไม่นำกระเป๋าเดินทางไปด้วย ตอนนั้นตนคิดว่าชายทั้งสองคงกลับมาเก็บกระเป๋าทีหลัง เลยขี่รถไปทำธุระ เมื่อกลับมาช่วงสายๆ ก็ยังพบกระเป๋าวางอยู่ เกรงว่าจะใส่ของอันตรายไว้จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.อ.จิณวัตรกล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะนำกระเป๋าเสื้อผ้าและสิ่งของที่พบไปทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อสรุปสาเหตุว่าเจ้าของลืมกระเป๋าไว้จริง หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ เนื่องจากจุดเกิดเหตุใกล้กับปั๊มน้ำมัน ทั้งนี้ ปกติถ้ามีผู้ลืมกระเป๋าไว้ เจ้าหน้าที่ก็จะประสานหาเจ้าของมารับทรัพย์สินกลับไป แต่หากเป็นการสร้างสถานการณ์ก็ต้องยกระดับการออกตรวจและตั้งด่านความมั่นคงให้เข้มงวดมากขึ้น