ตำรวจรวบตัว 3 โจรแสบ ตั้งแก๊งหลอกเชิดของจากแม่ค้า โดยทำทีขอซื้อสินค้ามูลค่ารวมกว่า 1.7 แสน พอไปส่งให้ถึงที่กลับยกสินค้าไป ก่อนจะตีเนียนขอเบิกเงินที่ธนาคาร แล้ววิ่งหนีหาย สารภาพทำมาแล้วกว่า 10 ครั้ง ค่าเสียหายครั้งละ 2 - 3 แสนบาท
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 20.00 น. ที่ สน.มีนบุรี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พ.ต.ท.สุรพล ก้อมน้อย รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.สมคิด ประเชิญสุข พ.ต.ต.ทัศพล สุขไพบูลย์ สว.สส.สน.มีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายภาณุเดช หรือ หนึ่ง ยิ้มระย้า อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 67/3 หมู่ 3 ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี, นายชาญณรงค์ หรือ ตี๋ มาลัย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207/1 หมู่ 3 ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี และ นายประเวท แสงอรุณไพศาล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/22 หมู่ที่ 1 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมของกลางลูกกุญแจจำนวนหนึ่ง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อลาวา จำนวน 2 เครื่อง บิลเงินสดจำนวน 4 ใบ สินค้าเบ็ดเตล็ด เช่น เบียร์ทั้งแบบกระป๋อง และแบบขวด บุหรี่ไทยและบุหรี่ต่างประเทศ รวมมูลค่า 195,837 บาท รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นฟรอนเทียร์ แบบมีหลังคา ทะเบียน ตย 3070 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟสีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน สามารถจับกุมได้ที่บริเวณโกดังถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 59 ที่ผ่านมา
น.ส.นันทา แซ่อึ้ง อายุ 66 ปี ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนเปิดร้านขายปลีกอยู่หลังตลาดจตุจักร 2 ถนนสีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. ซึ่งเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นผู้หญิงรายหนึ่ง โทร.มาอ้างว่าต้องการจะเปิดร้านขายของที่ย่านพระยาสุเรนทร์ จึงต้องการซื้อของเข้าร้าน มีการถามรายละเอียดของสินค้าต่าง ๆ และได้สั่งสิ้นค้าหลายรายการ เช่น เบียร์ บุหรี่ กาแฟสำเร็จรูป และสินค้าอีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 170,000 บาท โดยคนร้ายอ้างว่ายังไม่ต้องส่งสินค้าเพราะจะนัดสถานที่ส่งสินค้าอีกครั้ง ต่อมา วันที่ 1 ก.ย. คนร้ายได้ โทร.มาเพื่อนัดส่งสินค้า โดยนัดส่งกันที่ หมู่บ้านประภาทรัพย์ 5 ถ.เจริญพัฒนา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. จึงได้จัดของและให้ลูกน้องไปส่ง โดยกำชับว่าให้นำเงินค่าสินค้าให้ลูกน้องที่ไปส่งของ เมื่อลูกน้องไปถึงได้มีกลุ่มผู้ต้องหามาขนของ โดยมีนายประเวท ออกอุบายว่า เงินไม่พอต้องไปเบิกเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่งในตลาดมีนบุรี ให้ลูกน้องตนตามไปด้วย ลูกน้องจึง โทร.มาบอกตน ตนจึงตัดสินไปตามไปที่ธนาคาร แต่นายประเวทยังอ้างว่าสมุดธนาคารนั้น อยู่กับภรรยาที่ขายของในตลาดมีนบุรีต้องไปเอาก่อน ตนจึงเดินตาม แต่ตนขาเจ็บเลยเดินตามไม่ทัน ตนจึงไปถามคนรู้จักในตลาดว่าเห็นคนร้ายหรือไม่ ได้ความว่า คนร้ายได้วิ่งหนีไปแล้ว ตนจึงรู้ว่าถูกหลอก จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ ตนรู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากตนต้องกู้เงินมาเพื่อซื้อสินค้าหลายบาทแต่กลับถูกคนชั่วมาชุบมือเปิบไปง่าย ๆ
ด้าน พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจึงได้ร่วมกันวางแผนและเข้าจับกุมได้ในที่สุด ผู้ต้องหาให้การว่าได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมากว่า 10 ครั้ง โดยค่าเสียหายครั้งละ 2 - 3 แสนบาท รวมค่าเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ทั้งนี้ เคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.มีนบุรี 6 ครั้ง และในพื้นที่ สน.ฉลองกรุง 1 ครั้ง จากการสอบสวนยังทราบว่าหนึ่งคนร้ายที่อยู่ระหว่างการหลบหนีคาดว่าเป็นหัวหน้า คือ นายเพิ่มศักดิ์ แซ่ฉั่ว อายุ 71 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลพระโขนง เลขที่ ธ 266/2555 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง อยู่ระหว่างการหลบหนีในประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องตนเจ้าหน้าที่แจ้งข้องหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป